ซีรีส์ 10 เรื่องที่สร้างจากเรื่องจริง

You are currently viewing ซีรีส์ 10 เรื่องที่สร้างจากเรื่องจริง

“ศิลปะเลียนแบบวัตถุและเหตุการณ์ในชีวิตจริงของมนุษย์” ประโยคยนี้เป็นคำพูดของเพลโตที่ยึดมั่นในความจริง หลายครั้งที่ชีวิตจริงเป็นแรงบันดาลใจในการส้ราฃงสื่อบันเทิง ซีรีส์เกาหลีจึงไม่ได้มีแค่เรื่องรักโรแมนติกเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องแปลก ๆ เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ที่มีทั้งขึ้นและลง เรื่องราวแย่ ๆ ของประวัติศาสตร์

มีซีรีส์หลายเรื่องที่สร้างจากเรื่องจริง มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

Reply 1988”

Reply 1988

Reply 1988 เป็นหนึ่งในซีรีส์ชื่อดังและได้รับความรักจากผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์ตลอดกาลและผู้ชมเรียกร้องอยากดูอีก ปี 1988 เป็นปีสำคัญเพราะกรุงโซลเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในย่านซังมุนที่เต็มไปด้วยความครึกครื้น นักเรียนม.6 ที่เป็นเพื่อนรักกัน 5 คนใช้ชีวิตอย่างไม่รีบร้อน ทั้งสาวใจกล้าอย่างด็อกซอน (รับบทโดยอีฮเยริ) นักเรียนตัวอย่างที่ตั้งใจเรียนอย่างซอนอู (รับบทโดยโกคยองพโย) คิมจองฮวาน (รับบทโดยรยูจุนยอล) ผู้เงียบขรึม คอบอลอย่างดงรยอง (รับบทโดยอีดงฮวี) และนักเล่นหมากรุกที่เก็บตัวแต่เป็นคนเก่งอย่างชเวแทค (รับบทโดยพัคโบกอม) ที่เป็นเพ่อนสนิทกันถึงแม้จะมีจุดมุ่งหมายต่างกัน

แฟน ๆ ต่างแยกเป็น 2 ทีม ระหว่างจองฮวาน vs แทค ว่าใครคือพระเอกตัวจริง แต่ความจริงที่น่าสนใจคือตัวละครชเวแทคได้แรงบันดาลใจมากจากอีชางโฮ นักเล่นหมากรุกที่อายุน้อยที่สุด เขาเป็นนักเล่นมืออาชีพตั้งแต่อายุ 11  อีชางโฮเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับนานาชาติ 1 ครั้ง เขามักถูกเรียกว่า “พระพุทธรูปหิน” เพราะเขาเงียบและสงบมากเวบลาเล่นหมากรุก ซึ่งเป็นลักษณะของชเวแทคที่ใช้ความเงียบสยบทุกอย่าง

Bachelor’s Vegetable Store”

จีชางอุกรับบทเป็นฮันแทยอง ชายหนุ่มที่สิ้นเนื้อประดาตัวแต่มีรายได้จากการช่วยยายและน้องสาวขายผัก เขาตั้งใจอยากให้ร้านผักเล็ก ๆ ของเขาประสบความสำเร็จและมีสาขาเป็นของตัวเอง ซีรีส๋เรื่องนี้เป็นการดัดแปลงของหนังสือที่มีชื่อว่า “Bachelor Vegetable Store” ซึ่งบันทึกเรื่องราวความสำเร็จของอียองซอก ในปี 1099 อียองซอกได้เปลี่ยนร้านผักขนาดเล็กของเขาให้เป็นร้านผักเฟรนไชส์ทั่วประเทศที่มีถึง 33 สาขา

ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นซีรีส์เรื่องแรก ๆ ของจีชางอุกและเป็นเรื่องที่หลายคนชื่นชอบ เรื่องราวของความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของชายหนุ่มคนหนึ่งที่พยายามเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขา ซีรีส์ปี 2011 เรื่องนี้เป็นที่น่าจับตามองมาก และรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของจีชางอุกจะละลายหัวใจของคุณ

Fight My Way”

Fight for My Way

พัคซอจุนรับบทเป็นดงมันที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญกับทุกโอกาสเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่นองเลือด กลับกันชเวแอรา (รับบทโดยคิมจีวอน) กลับกลัวทุกครั้งที่ดงมันต้องไปแข่ง “Fight My Way” สร้างจากเรื่องของคู่รักชูซังฮุน แชมป์ MMA และภรรยานางแบบอย่างยาโนะ ชิโฮะ นักเขียนอิมชางซอนได้แรงบันดาลใจจากคู่นี้จึงเขียนบทเพื่อเน้นชีวิตของนักกีฬาและครอบครัวของเขา

ความกลัวของยาโนะ ชิโฮะที่แสดงออกมาทุกครั้งเวลาสามีต้องลงแข่งแสดงให้เห็นถึงนิสัยของแอรา ส่วนชูซังฮุนที่ดูเป็นคนน่ากลัวในสนามแข่งแต่มีความเป็นสามีที่ดีและเป็นคุณพ่อที่อ่อนไหวซึ่งเหมือนดงมันในเรื่อง

Empress Ki”

Empress Ki

สงครามในราชวงศ์, การรุกรานในวัง, การคดโกงและการก่อกบฏล้วนก่อให้เกิดการเล่าเรื่องอย่างน่าทึ่ง เรื่องราวที่ถูกบันทึกโดยนักประวัติศาสตร์ในวังมักถูกตีความมาใหม่ในสื่อบันเทิง

ฮาจีวอนรับบทเป็นตัวเอกที่ได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายโทกอน (รับบทโดยจีชางอุก) เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นตามนิยายเกี่ยวกับชีวิตของจักรพรรดินีที่มีแต่ข่าวแย่ ๆ เธอเกิดในครอบครัวที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ๆ เป็นเรื่องราวในราชอาณาจักรโครยอที่มีต่อราชวงศ์หยวนในประเทศจีน เธอเลื่อนขั้นจากสาวใช้ในวังมาเป็นสนมที่โปรดปรานของจักรพรรดิและหลังจากนั้นก็ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี

แม้ความสัมพันธ์ในราชวงศ์ถูกนำมาเล่าซ้ำทางสื่อ แต่ในซีรีส์นั้นดัดแปลงให้ขึ้นอยู่กับคาแร็คเตอร์ตัวละคร จักรพรรดินีผู้ท้าทายระบบอำนาจ มักถูกเรียกว่าเป็นคนบงการและกระหายอำนาจในหน้าประวัติศาสตร์ หลังจากที่เธอรุกรานโครยอด้วยกองกำลังหยวน เธอถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศที่บุกรุกประเทศตัวเอง

The Red Sleeve”

The Red Sleeve

เรื่องราวความรักที่ทำให้ใจสั่นระหว่างสาวใช้ในวัง (และต่อมาได้เป็นสนม) อย่างซองด็อกอิม (รับบทโดยอีเซยอง) และองค์ชายรัชทายาทรูปงามอีซาน (รับบทโดยอีจุนโฮ) ที่ทำให้เธอหัวใจแตกสลายไม่รู้กี่ครา เรื่องนี้ได้แรงบันดาบลใจจากกษัตริย์จองโจที่มีต่อพระสนมคนโปรดของเขาคือพระมเหสีซองอูบิน “The Red Sleeve” เป็นซีรีส์ที่สวยงามแต่เจ็บปวด เรื่องราวของคู่รักแต่เต็มไปด้วยความรักที่แสนเศร้า

อีจุนโฮได้รับรางวัล Baeksang จากบทองค์ชายรัชทายาท ผู้ชมหลายคนถูกดึงดูดด้วยการแสดงอารมณ์ของเขากับบทเจ้าชายอีซานที่น่ารัก

“Hwarang”

Hwarang

หรือที่รู้จักในนามอัศวินรูปหล่อ ฮวารังเป็นสมาชิกที่สำคัญของสังคมในอาณาจักรชินลาเมื่อศตวรรษที่ 10 พวกเขาเป็นกลุ่มชายหนุ่มชั้นสูงที่มีความเชี่ยวชาญด้านปรัชญา ศาสนา ศิลปะและการต่อสู้เป็นอย่างดี ตำนานของฮวารังค่อนข้างโรแมนติกจึงนำมาสู่การทำซีรีส์เรื่อง “Hwarang”

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มอัศวินหนุ่ม (รับบทโดยพัคซอจุน, พัคฮยองชิก, วี BTS, โดจีฮัน และมินโฮ SHINee) พวกเขารวมตัวกันเพื่อสร้างชินลาใหม่พร้อมกับการเดินทางตามหาความรัก, มิตรภาพ และเส้นทางต่าง ๆ ของพวกเขาเอง

Signal”

Signal

พัคเฮยอง (รับบทโดยอีเจฮุน) เป็นนักสืบคดีอาชญากรรม ละตำรวจสายสืบอย่างอีแจฮัน (รับบทโดยโจจินอุง) ได้ยินเบาะแสจากวิทยุจึงรวมตัวกับสืบคดีอีกครั้ง เส้นเวลา / เส้นทั้งอดีตและปัจจุบันทับซ้อนกัน ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะไขคดีที่ยังไม่มีการแก้ไขที่คล้ายกันทั้งในอดีตและปัจจุบันและหาตัวคนทำผิด

“Signal” สร้างจากอาชญากรรมในชีวิตจริงที่เกิดขึ้นในจังหวัดกยองกีคือคดีลักพาตัวพัคโชรงในปี 1997 และการฆาตกรรมต่อเนื่องที่ฮวาซองอย่างฉาวโฉ่ระหว่างปี 1986-1994 ซึ่งคดีก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเป็นเวลาหลายปี ผู้สร้างซีรีส์เน้นถึงเหตุการณ์อันน่าสยดสยองเหล่านี้เพื่อแสดงความเคารพต่อเหยื่อและเตือนประชาชนไม่ให้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

Taxi Driver”

Taxi Driver

เรื่องราวของคิมโดกี (รับบทโดยอีเจฮุน) เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่หลังจากแม่ถูกฆ่าเขาก็มาขับแท็กซี่ โดยแท็กซี่คันนี้บริการในฐานะศาลเตี้ย เขาใช้ความสามารถพิเศษของเขาเพื่อช่วยผู้คนแก้แค้นและทวงความยุติธรรม

เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของโชดูซุนที่เป็นผู้กระทำความผิดทางเพศแต่ได้รับการปล่อยตัวออกมาจากคุก ทำให้ประชาชนโกรธแค้น และการค้ามนุษย์พิการที่เกาะม่วงในชอลลา ซีรีส์เรื่องนี้ยังเน้นเรื่องการรังแกในโรงเรียนและการข่มขู่ในที่ทำงาน “Taxi Driver” จะกลับมาในซีซั่น 2 เร็ว ๆ นี้ และจะมีคดีใหม่ ๆ ให้คิมโดกีจัดการ

Hymn of Death”

Hymn of Death

ฉากหลังของเรื่องคือยุคที่เกาหลีถูกปกครองโดยญี่ปุ่น “Hymn of Death” เป็นเรื่องราวของยุนชิมด็อก (รับบทโดนชินฮเยซอน) นักศึกษาดนตรีที่ตกหลุมรักนักเขียนบทละครคิมอูจิน (รับบทโดยอีจงซอก) แต่อูจินแต่งงานแล้ว แล้วพวกเขาก็แยกจากกันไป หลายปีต่อมาชิมด็อกเป็นนักร้องโซปราโน เธอได้พบอูจินอีกครั้ง พวกเขาไม่อาจห้ามใจกันและกันในขณะที่อูจินก็แต่งงานอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในสังคม “Hymn of Death” เป็นเรื่องจริงจากความรักที่โชคร้ายของนักร้องโซปราโนคนแรกของเกาหลีอย่างยุนชิมด็อกและนักวิจารณ์วรรณกรรมคิมอูจิน ผลงานของยุนชิมด็อกที่ยังเหลืออยู่คือแผ่นเสียงชื่อ “Eulogy of Death” ที่เธอร้องเพลงไว้และได้รับการดัดแปลงในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

Move to Heaven”

Move to Heaven

เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เป็นแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม (รับบทโดยทังจุนซัง) และอาของเขา (รับบทโดยอีเจฮุน) ที่ทำงานเป็น คนทำความสะอาดและจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย ขณะที่พวกเขาเคลียร์ทรัพย์สินของคนตายพวกเขาก็จะเปิดเผยเรื่องราวที่ผู้ตายทิ้งไว้เบื้องหลังและเล่าเรื่องเหล่านั้นให้คนที่ผู้ตายรักฟัง ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงที่เล่าผ่านเรียงความแต่ไม่ใช่นิยายเรื่อง “Things Left Behind”ของคิมซาบยอลที่ทำความสะอาดและจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตายจริง ๆ และเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดตัวเองผ่านบทความนี้

“Move To Heaven” เป็นซีรีส์สะเทือนอารมณ์และเป็นเตือนใจให้เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถึงจะให้ความรู้สึกเหมือนนั่ง Rollercoaster แต่การเล่าเรื่องราวที่อ่อนไหวด้วยความตลกทำให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ควรดู

Leave a Reply