ดูเหมือนว่าละครและรายการวาไรตี้ทีมีความยาวเพียงตอนละ 30 นาทีกำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยรายการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้รับชมขณะรับประทานอาหาร และจะจบลงทันทีที่เราทานเสร็จ
คอนเท้นท์ที่มีเนื้อหาความยาวปานกลางซึ่งเรียกว่า “midform” นี้กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มมาแทนที่เนื้อหาที่ยาวแบบดั้งเดิมซึ่งมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง และเนื้อหาแบบสั้นที่มีความยาวน้อยกว่า 10 นาที
อย่างละครแนวระทึกขวัญจิตวิทยาเรื่อง “Friendly Rivalry” ซึ่งออกฉายเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง U+Mobile TV ก็มีทั้งหมด 16 ตอน ตอนละ 30 นาที
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากกระแสหลักที่ปกติละครจะมีความยาวตอนละ 60 ถึง 90 นาที แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ก็ได้ผลิตละครที่มีความยาวตอนปานกลางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น “Chicken Nugget” (2024) ของ Netflix, “One Day Off” (2023) ของ Wavve และ “Work Later, Drink Now” (2021-22) ของ Tving โดยแต่ละตอนมีความยาวประมาณ 30 นาที
ทางด้านของผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินก็เริ่มเข้าร่วมกระแสดังกล่าวเช่นกัน โดย KBS วางแผนที่จะเปิดตัวละครที่มีความยาว 30 นาทีเป็นครั้งแรกในปีนี้
ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ซิทคอมเรื่อง “Villains Everywhere” จะออกอากาศ 2 ตอนติดต่อกันในคืนวันพุธและพฤหัสบดี แทนที่ละครความยาว 1 ชั่วโมงตามปกติ
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับ “อัตราส่วนของเวลาที่มีต่อความพึงพอใจ” เนื่องจากเนื้อหาสั้นทั่วโลกที่มีเนื้อหาตอนละ 1 ถึง 2 นาทีกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่าละครความยาว 60 นาทีนั้นยาวเกินไป
คิมยองโจ (Kim Young Jo) หัวหน้าฝ่ายละครของ KBS กล่าวว่า “เรากำลังปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มผู้ชมที่อายุน้อยซึ่งชอบเนื้อหาที่สั้นกว่า โดยเราจะทดลองทำคอนเท้นท์ตอนละ 30 นาทีก่อน และเมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้น เราอาจลองสร้างซิทคอมที่มีความยาวเพียง 20 นาที ซึ่งก็คล้ายกับที่ทำกันในสหรัฐฯ”
รายการวาไรตี้ที่มีความยาวตอนสั้นลงก็กำลังเกิดขึ้นเช่นกัน อย่างรายการ “Screwballs” วาไรตี้ใหม่ของ Netflix ซึ่งออกฉายเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีความยาวตอนละ 26 ถึง 27 นาทีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน “Newbie in the Club” รายการวาไรตี้ใหม่ของ Netflix ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็มีความยาวตอนละ 24 ถึง 25 นาที และรายการวาไรตี้ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ของ Netflix เช่น “Try? Choo-ry!” และ “K-Foodie Meets J-Foodie” ก็เป็นรายการที่วางไว้ให้มีความยาวตอนแบบกลาง ๆ เช่นกัน
เมื่อเปรียบเทียบกับรายการวาไรตี้เรือธงของ Netflix ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน เช่น “Single’s Inferno” และ “Physical: 100” หรือรายการฮิตอย่าง “Culinary Class Wars” ซึ่งมีความยาวตอนละ 60 ถึง 90 นาที รายการใหม่เหล่านี้มีความยาวตอนที่สั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด
Netflix อธิบายว่ารายการวาไรตี้สั้น ๆ สบาย ๆ แบบนี้เป็น “ความบันเทิงที่สนุกสนานและดูง่าย เหมาะสำหรับผู้ชมที่กำลังเดินทางและรับประทานอาหาร”
ด้วยการเพิ่มขึ้นของครัวเรือนที่มีคนอยู่คนเดียวและการรับประทานอาหารคนเดียว แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจึงมุ่งเป้าไปที่ผู้ชมที่ชอบเนื้อหาขนาดพอดีคำขณะรับประทานอาหารคนเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่าเนื้อหาความยาวปานกลางแบบนี้เป็นกระแสหลัก
นักวิจารณ์วัฒนธรรมป๊อป คิมกโยซอก (Kim Gyo Seok) กล่าวว่า “รายการที่มีโครงเรื่องแบบรายการหาคู่ มักจะมีความยาวมากกว่ารายการประเภทอื่น ขณะที่รายการวาไรตี้ที่เน้นตัวละครหรือรูปแบบเหมือน YouTube กำลังเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นรายการประเภทความยาวปานกลาง ซึ่งความหลากหลายในรูปแบบรายการและความยาวของตอนต่าง ๆ จะยังคงพัฒนาต่อไป”
