5 เหตุผลที่ “Jirisan” เป็นซีรีส์เกี่ยวกับภัยภิบัติแนวใหม่

You are currently viewing 5 เหตุผลที่ “Jirisan” เป็นซีรีส์เกี่ยวกับภัยภิบัติแนวใหม่

Jirisan” จบไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงเป็นที่จดจำในนิยามใหม่ของซีรีส์ประเภทภัยภิบัติ ซีรีส์เกี่ยวกับภัยพิบัติส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ปรากฏการณ์ทั่วเมือง เช่น “D-Day” และ “Designed Survivor: 60 Days” หรือภัยพิบัติแห่งชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือเหนือธรรมชาติ เช่น “Dark Hole” และ “Sweet Home” แต่ “Jirisan” เป็นเรื่องที่รวมทั้งธรรมชาติ มนุษย์ และการรวมพลังเพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจขึ้นมาอย่างช้า ๆ เรื่องราวของภูเขาและชาวเมืองเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในเงา

ซออีกัง (รับบทโดยจอนจีฮยอน) เป็นหน่วยลาดตระเวนที่เก่งที่สุดในอุทยานแห่งชาติ Jirisan เธอรู้จักทุกซอกทุกมุมของภูเขา (และเทือกเขาที่อยู่ใกล้เคียง) และมีความเคารพต่อทุกชีวิตที่เธอช่วยไว้หรือคนที่จากไป ส่วนคังฮยอนโจ (รับบทโดยจูจีฮุน) เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนใหม่ เป็นอดีตกัปตันทหาร ภายใต้อากาศกลับซ่อนความลับที่น่าขนลุกไว้ อีกังเป็นพาร์ทเนอร์กับฮยอนโจ แต่ขณะที่เธอสอนเจ้าหน้าที่คนใหม่อยู่เธอก็ตระหนักได้ว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ผู้คนเริ่มหายไปในเขา Jirisan ดูเหมือนว่ามีแค่ฮยอนโจเท่านั้นที่รู้ว่าใครจะเป็นคนต่อไปที่หายตัวไปและจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นแล้วอีกังจึงต้องแข่งกับเวลาเพื่อไขปริศนาของภูเขา Jirisan ก่อนที่เธอกับฮยอนโจจะกลายเป็นเหยื่อคนต่อไป

ถ้าสมมุติฐานข้างต้นไม่ได้ทำให้คุณสนใจซีรีส์เรื่องนี้เท่าไรนัก มาดู 5 เหตุผลที่คุณควรจะดูซีรีส์เรื่องนี้กันดีกว่า!

*ต่อไปนี้จะเป็นการรีวิวที่ไม่มีสปอยล์

1.ภูเขา Jirisan อันแสนกว้างใหญ่


นอกเหนือจาก 2 นักแสดงนำแล้ว “Jirisan” ก็เป็นตัวละครหลักที่ไม่มีบทพูดแบบนักแสดงที่เป็นมนุษย์แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด: ภูเขาจากชื่อเรื่องเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของเกาหลีใต้ สำหรับซีรีส์ทีเกี่ยวกับการสำรวจป่าไม้นั้น การแสดงส่วนใหญ่จึงโฟกัสไปที่ทิวทัศน์อันสวยงามซึ่งกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดความชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของภูเขา Jirisan

โดยทั่วไป การแสดงกับธรรมชาตินั้นต้องมีความเคารพและระมัดระวัง ภูเขานี้ถูกพรรณนาว่าเป็นสถานที่ที่น่าพิศวง เป็นผู้พิทักษ์โบราณสถานแห่งหนึ่งที่มีความสูงตระหง่านแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ภูมิประเทศที่ขรุขระบนภูเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและสะดวกต่อการถ่ายทำเท่าไรนัก

ในซีรีส์เรื่องนี้ ทุกการกระทำของมนุษย์บนภูเขาล้วนมีผลตามมา เช่น ที่ดินเปล่าที่แต่เดิมนั้นไม่มีมนุษย์ครอบครอง แต่มนุษย์กลับโลภทำในสิ่งที่ต้องการโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา บทเรียนนี้สอนมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่าผ่านการที่มนุษย์ยอมวิ่งขึ้นเขาเพราะเชื่อว่ามีที่ดินที่มนุษย์มีสิทธิ์ครอบครองได้

นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญและวัดประวัติศาสตร์ที่งดงามบางที่ปรากฎในซีรีส์ เช่น Jirisan Cheonwangbong Peak, Samshinbong Peak, Samseonggung หรือ Three Sages Palace เพียงแค่ได้มองสิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้จักนาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเกาหลีก็ทำให้ตื่นเต้นได้แล้ว

2.จอนจีฮยอนกับบทบาทซออีกัง


จอนจีฮยอนไม่กลัวเลยที่จะเข้าถึงบทนี้ นี่ไม่ใช่หนึ่งในบทเช่นตำรวจหรือนักกีฬา (หรือคนที่ทำงานด้านร่างกาย) หรือคนที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดทั้งวัน บทซออีดังนั้นไม่มีเวลาแต่งหน้า ไม่มีเวลาเดท เธอทุ่มเทให้กับงานของเธออย่างเดียว ไม่ว่าจะดีหรือไม่ก็ตาม เธอขึ้นลงตามภูเขาเพื่อหาคนที่หลงทางหรือคนหายไปเป็นประจำ ทั้งอุปกรณ์หนัก ๆ เหงื่อออกเยอะ วิ่งและดำน้ำ ชีวิตของซออีกังต่างขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ จอนจีฮยอนอยู่จุดสูงสุดในการแสดงชีวิตดิบ ๆ และสั่นสะเทือนวงการในฐานะผู้หญิงที่ทั้งเกลียดและเคารพภูเขาที่เธอเดินผ่านทุกวัน

บทบาทของอีกัง พัฒนาไปเรื่อย ๆ เมื่อซีรีส์ดำเนินไปแต่ละตอน ซึ่งการแสดงของจอนจีฮยอนก็จะต้องแตกต่างออกไป เป็นการเปลี่ยนแปลงแทบจะ 180 องศาจากการแสดงของเธอจาก “My Love From the Star” และ “The Legend of the Blue Sea” อีกังหงุดหงิดง่าย แต่เธอก็ยอมรับข้อติเตียน เธอมีความสามารถและเก่งเหนือใคร จอนจีฮยอนแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นกำไรของผู้ชมจริง ๆ ที่ได้ดูการแสดงของเธอ

3.นักแสดงสมทบ

จูจีฮุนแสดงได้ดีมากในบทคังฮยอนโจที่ถึงแม้จะเงียบแต่ก็เชื่อถือได้ ความสัมพันธ์ของฮยอนโจกับอีกังที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นบ่งบอกถึงเสน่ห์ที่แสนจะโรแมนติก แต่นักแสดงคนอื่น ๆ ก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาดีเช่นกัน โอจองเซสามารถแสดงบทบาทตัวละครของเขาในฐานะเพื่อนทหารที่แอบชอบเพื่อนทีมอื่นออกมาด้วยความตั้งใจ ซองดงอิลเป็นหัวหน้าทีมที่เปลี่ยนไม่ได้ เขาคอยควบคุมเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ทุกคนรวมถึงคนที่ดูเหมือนจะรู้มากกว่าที่เขา นักแสดงดาวรุ่งอย่างโกมินชีที่ส่องประกายรับบทเป็นนักล่าที่ร่างเริงซึ่งนับถืออีกังด้วยเหตุผล นักแสดงเหล่านี้ถือเป็นการรวบรวมพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมตัวละครเหล่านี้ถึงรู้สึกเหมือนผู้คนในชีวิตจริง และประพฤติตัวในแบบที่ผู้คนส่วนใหญ่จะทำ เรื่องราวในซีรีส์หรือการต่อสู้ใด ๆ ล้วนมีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง ทำให้ดูซีรีส์ได้อย่างสนุกเลยทีเดียว

4.วิกฤตการณ์ที่เจ้าหน้าที่อุทยานต้องเผชิญ


เราเคยเห็นแผ่นดินไหว ซอมบี้ และไวรัสกลายพันธุ์ในซีรีส์มาก่อน แต่ “Jirisan” ทำนั้นแตกต่างออกไปอีกเลเวล ทุกองค์ประกอบที่มนุษย์รู้จักนั้นโจมตีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนที่ตกอยู่ในอันตราย ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ไฟป่าและพายุหิมะ ไม่มีสิ่งใดและไม่มีใครปลอดภัยจากธรรมชาติ และบนเขา Jirisan ธรรมชาติมีอำนาจสูงสุด แต่ผู้คนพยายามที่จะบุกรุกธรรมชาติเพราะความโลภ พระนางต้องเผชิญหน้ากับนักลักลอบล่าสัตว์ผิดกฎหมาย คนเก็บสมุนไพรที่ตอบคำถามไม่ได้ และคนเขียนหนังสือที่สร้างความเสียหายทุกรูปแบบ ยิ่งไปกว่านั้นยังเจอผื่นของคนที่หายไปและถูกพบว่าเสียชีวิตบนภูเขา จึงมีทั้งความสงสัยและความกลัวเพิ่มมากขึ้นบนภูเขาที่ไม่ปลอดภัยแบบแต่ก่อน แต่สิ่งที่แย่กว่าก็กำลังจะเกิดขึ้น แค่ฟังก็แทบบ้าแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างสมเหตุสมผล เป็นหลักฐานยืนยันถึงความสามารถของนักเขียนคิมอึนฮีที่ติดตามสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานตลอดทุกฤดูกาลเพื่อให้ซีรีส์สมเหตุสมผลมากที่สุดกับเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความยากลำบาก

5.เพลงประกอบซีรีส์

มันยากที่จะจินตนาการว่าเพลงแบบไหนจะเหมาะกับบรรยากาศที่เกี่ยวกับภูเขาและความลึกลับ แต่เพลงที่ร้องโดยจิน BTS นั้นมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบของมนุษย์เพื่อทำให้เพลงมีชีวิตเกี่ยวกับความเจ็บปวดและความปรารถนาที่สมบูรณ์ หลาย ๆ เพลงของซีรีส์เรื่องนี้เป็นธีมที่สมบูรณ์ ทั้งปกปิดความฉลาดและความงามที่เงียบสงบของภูเขา เพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างดัง แต่เพลงของจินนั้นเหมือนฟังอยู่ในสวนจริง ๆ เป็นเพลงโปรดที่ต้องฟัง โดยเฉพาะวันที่ฝนตก

นี่คือเหตุผลที่ควรดู “Jirisan” ถ้าคุณลังเลอยู่ก็อย่าลังเลอีกต่อไป! ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยตัวละครที่น่ารัก ทิวทัศน์ที่สวยงาม หลากหลายชีวิตและความลึกลับที่น่าตื่นเต้น ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่สมบูรณ์เลยถ้าไม่มีการรวมทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน การดูซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณมีความสุขเมื่อหมดวันไป ทั้งยิ้ม, ตกใจ, น้ำตาคลอ แต่คุณจะไม่เสียใจที่ได้ดู!

ที่มา soompi.com

Leave a Reply