ตอนแรกคิดว่าเป็นซีรีส์แนวหมอที่คงเน้นดราม่าชีวิตตัวละครไปตามสูตร แต่พอเริ่มดูเท่านั้นแหละ เข้มข้น สุดดาร์ค เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เล่าความดราม่าระทึกขวัญธรรมดา แต่มันขยี้ลึกลงไปถึงแก่นศีลธรรม ชนิดที่ทำเอาต้องหยุดคิดตามว่า “นี่เรากำลังเชียร์คนผิดอยู่หรือเปล่า?”
พอพูดถึง “หมอ” ภาพในหัวของเราก็มักจะเป็นคนดีที่ช่วยชีวิตคนใช่ไหม? แต่ Hyper Knife ทำลายภาพนั้นไปเลย เพราะเรื่องนี้มันสะท้อนว่า หมอก็เป็นแค่คนธรรมดาที่มีทั้งด้านดีและด้านมืด ไม่ใช่เทวดาที่บริสุทธิ์อย่างที่เราชอบคิดกัน และคนที่ดูเป็นคนดีทั้งหลายก็มี ‘’ด้านมืด” ที่เขาแค่ไม่ได้ประกาศมันออกมา
เรื่องราวความแค้นฝังหุ่นเริ่มต้นจากความขัดแย้งระหว่าง “ชเวด็อกฮี” (ซอลคยองกู) ศัลยแพทย์ระบบประสาทที่เก่งระดับโลก กับ “จองเซอ๊ก” (พัคอึนบิน) หมออัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์เกินใคร แต่กลับต้องจบชีวิตการเป็นหมอเพราะอาจารย์ของตัวเอง เซอ๊กคือคนที่มีความสามารถจริง ๆ แต่กลับต้องถูกกีดกัน แถมพรสวรรค์ที่เธอมีดันถูกละเลยไปหมด แต่ที่น่าทึ่งไปไม่แพ้กับความจิต ๆ ของเธอคือ เซอ๊กไม่ยอมปล่อยมีดผ่าตัดทิ้ง แต่เลือกที่จะเป็น “หมอเถื่อน” ในห้องผ่าตัดใต้ดิน แบบผิดกฎหมาย และยังยึดมั่นในคำที่ว่า “ทุกชีวิตมีค่า”
[แล้วหมอต้องช่วยทุกคนจริงเหรอ?]
ซีรีส์หยอดคำถามที่ทำเอาเครียด เพราะมันทำให้คิดว่า “ทุกชีวิตมีค่า” จริงไหม? หมอจะช่วยใครก็ต้องช่วยหมดสิ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร แต่ในโลกจริงมันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าช่วยคนจน ผลตอบแทนอาจมีแค่คำขอบคุณหรือเงินนิด ๆ หน่อย ๆ แบบคุณหมอผู้ช่วยของเซอ๊กที่มีแค่คลีนิคเล็กๆ ห้องเดียว แต่ถ้าช่วยคนรวยล่ะ? ชื่อเสียง เงินทอง ความมั่นคงในชีวิตมาเต็ม แล้วมันไม่แปลกเหรอที่เรามักจะเชิดชูหมอที่มีชื่อเสียง ทั้ง ๆ ที่บางทีพวกเขาก็อาจจะเลือกช่วยเฉพาะคนที่ให้ผลประโยชน์ก็ได้
แล้วถ้าหมอต้องรักษาคนที่ตัวเองเกลียดล่ะ? คนที่เคยทำร้ายจิตใจ ทำลายชีวิต หรือเป็นศัตรูที่สร้างบาดแผลฝังลึกไว้ในใจ หมอจะยังคงยึดมั่นในคำว่า “ทุกชีวิตมีค่า” ได้ไหม? ในเมื่อมือมีมีดผ่าตัดที่พร้อมจะช่วยชีวิตเขาได้ก็อาจจะคร่าชีวิตเขาได้เหมือนกัน
[ความย้อนแย้งของศีลธรรม]
Hyper Knife กำลังพาเราไปสำรวจและเล่นกับความรู้สึกต่อศีลธรรมแบบหนักมาก และยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการเป็นหมอหรือไม่เป็นหมอแล้ว แต่มันคือการตั้งคำถามกับศีลธรรมและความยุติธรรมถูกต้องดีงามไปพร้อม ๆ กัน เช่น เมื่อมีคนทำผิดกฎหมาย แล้วอีกคนหนึ่งใช้ความผิดนั้นมาแบล็คเมล์เพื่อประโยชน์ตัวเอง การตอบโต้ด้วยความโหดเหี้ยมมันคือความถูกต้องที่สาสมแล้วจริงเหรอ?
เหมือน Hyper Knife กำลังขนบรรดา “คติความเชื่อ” ในเรื่องดี-เลวให้มันปนกันไปหมด ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าจริง ๆ แล้วโลกนี้มันไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ แต่มันคือ “สีเทาที่พร่ามัว” บางครั้งเราก็อยากยึดมั่นกับความดี เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่ามีหลักยึด แต่พอเรื่องราวแย่ ๆ มาตบหน้าเราก็พร้อมจะสวนกลับกัน ความสนุกของ Hyper Knife มันอยู่ตรงนี้แหละ ที่มันไม่ได้แค่เล่าเรื่องให้จบ ๆ ไป แต่มันท้าทายความคิดเรา บีบคั้นหัวใจให้ต้องคิดตาม เหตุผลกับอารมณ์สลับกันวุ่นวายไปหมด จนบางทีเราก็ไม่รู้แล้วว่าตกลงสิ่งที่คิดว่าดี มันดีจริงหรือเปล่า
[ สุดท้ายแล้ว…ใครคือ “คนดี” ? ]
การดู Hyper Knife เหมือนกับการเข้าไปอยู่ในสนามประลองความคิด ที่ทุกก้าวคือกับดักแห่งศีลธรรม ความเชื่อที่เคยมั่นใจก็สั่นคลอน ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้ว “คนดี” ที่เราเชื่อมั่นกันมานาน มันมีอยู่จริงหรือแค่เรื่องเล่าที่เราสร้างขึ้นเอง
ถ้าอยากท้าทายความคิดตัวเอง อยากรู้ว่าความดีที่เรายึดถือมาตลอด มันจะอยู่รอดได้ในโลกสีเทานี้หรือไม่ Hyper Knife จะพาเราไปพบความจริงที่ไม่มีใครอยากยอมรับ ผ่านเรื่องราวสถานะของหมอที่ถูกยกไว้ว่าเป็น “คนดี” แต่จริง ๆ แล้ว…บางที “คนดี” อาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เราเคยคิด หรือมันอาจไม่เคยมี “คนดี” จริงๆ เลยก็ได้ในโลกนี้
ไปทดสอบศีลธรรมตัวเองผ่านซีรีส์ดราม่าทริลเลอร์ #HyperKnife ทั้งซับไทย/พากย์ไทยได้ทุกพุธที่ #DisneyPlusHotstarTH
มีทั้งหมด 8 ตอน สตรีมสัปดาห์ละ 2 ตอน เวลา 14.00 น.
พร้อมสตรีมให้ชมกันแล้ว
