จากดาราสาวที่ไม่มีชื่อเสียงสู่ซุปเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียง ผลงานทั้งหมดที่อิมจียอนทำล้วนเป็นตัวเลือกที่กล้าหาญ
อิมจียอน เกิดปี 1990 และเริ่มงานแสดงในปี 2010 ทั้งซีรีส์และหนังสั้น เธอใช้เวลาต่อสู้ถึง 4 ปี เพื่อหางานในวงการบันเทิง จนในที่สุดก็ได้ถ่ายภาพยนตร์พร้อมกันถึง 2 เรื่อง
จุดเปลี่ยนในชีวิตเพราะการเลือกบทอย่างกล้าหาญในการแสดง
ในปี 2014 อิมจียอนรับบทนำหญิงในภาพยนตร์เรื่อง “Obsessed” แสดงคู่กับซนซึงฮอนที่อายุมากกว่าเธอถึง 14 ปี เรื่องราวของผู้พันจินพยอง (รับบทโดยซงซึงฮอน) และภรรยาของลูกน้องอย่างกาฮึน (รับบทโดยอิมจียอน) ในปี 1969 ที่เป็น Background ของทหาร ถึงแม้ทั้งคู่ต่างคนจะต่างแต่งงานอย่างถูกกฎหมายแต่กลับตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบและรักกันอย่างลึกซึ้งจนเกิดโศกนาฏกรรม ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากโป๊เปลือยและฉากมีเซ็กส์ของตัวละคร
จากการให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ Chosun Ilbo อิมจียอนบอกว่าเธอรู้สึกกดดันอย่างมากกับการถ่ายทำฉากโป๊เปลือย แต่เธอเชื่อใจซนซึงฮอนนักแสดงพาร์ทเนอร์ของเธอ การเอาชนะความป่าเถื่อนและความอนาจารหรือฉากมีเซ็กส์นั้น จริง ๆ แล้วถูกสร้างขึ้นด้วยเจตนาทางศิลปะเพื่อแสดงความรักความงามเสน่หาสูงสุดของตัวละคร
ซงซึงฮอนเผยว่าเขามักจะใช้อุปกรณ์ป้องกันที่เฉพาะเจาะจงในส่วนที่ต้องเซฟและยกย่องคู่แสดงของเขาในเรื่องความเป็นมืออาชีพ ความเป็นธรรมชาติ และการปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อสภาพแวดล้อมของอิมจียอน เขายังกล่าวว่าเขาไม่มีเวลามากนักที่จะทำความรู้จักกับอิมจียอนก่อน เลยยากที่ต้องเค้นอารมณ์ออกมาในตอนที่แสดง
“บางทีการถ่ายทำอาจจะยากกว่าสำหรับคุณอิมจียอนนะครับ เพราะเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่แล้วต้องเริ่มถ่ายทำต่อหน้าทีมงานผู้ชายเป็นจำนวนมากด้วย” ซงซึงฮอนกล่าว
1 ปีต่อมา อิมจียอนก็หวนคืนจอยักษ์อีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง “The Treacherous” ซึ่งเป็นผลงานที่มีฉากร้อนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลี ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้าง “ยุคมืด” ของโชซอนขึ้นมาใหม่ภายใต้การปกครองของยอนซังกุนที่บ้ากามไม่มีสิ้นสุด เขาจับเด็กผู้หญิงมาเป็นทาสรับใช้หนึ่งในนั้นคือดันฮี (รับบทโดยอิมจียอน) ซึ่งเธอตั้งใจจะล้างแค้นให้พ่อของเธอโดยใช้ความงามของตัวเองทำให้ได้เข้าไปในวังเพื่อยั่วยวนและหาทางสังหารพระราชา
ในภาพยนตร์ อิมจียอนและตัวละครหญิงคนอื่น ๆ ต้องถ่ายฉากที่พวกเธอใส่ชุดฮันบกโดยไม่มีเสื้อคลุมซึ่งต้องเห็นหน้าอก ฉากต่าง ๆ ที่ฉายอย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องจนถึงตอนจบอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนชอบดู
“การแสดงเรื่อง ‘The Treacherous’ ช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ เพราะบทที่หนักแน่นและตัวละครที่มีเสน่ห์ ในฉากที่ต้องโชว์เนื้อโชว์ตัวฉันไว้ใจผู้กำกับคนเดียวเลยนะคะ ฉันชอบผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับมินกยูดงมากเลยค่ะ” นักแสดงสาวกล่าวถึงความเชื่อมั่นในตัวผู้กำกับคนนี้
อิมจียอนยังต้องแสดงฉากใกล้ชิดสนิทสนมและถึงเนื้อถึงตัวกับนักแสดงอียูยองใน “The Treacherous” อีกด้วย อียูยองกล่าวว่า “ในตอนแรกการจูบและกอดคนเพศเดียวกันทำให้ฉันกังวลค่ะ แต่การทำแบบนี้กับผู้หญิงด้วยกันมันง่ายและสบายใจกว่านะคะ”
เส้นทางใหม่ในอาชีพของอิมจียอนกับควมเชี่ยวชาญในการแสดงฉากที่ต้องแสดงอารมณ์
หลังจากสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง เส้นทางอาชีพของอิมจียอนก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้รับบทในซีรีส์จอแก้วเรื่อง “High Society” กับบทเด็กสาวที่ยากจนแต่มองโลกในแง่ดีและอดทน สำหรับบทบาทนี้อิมจียอนได้รับคำชมเชยจากการแสดงของเธอและได้รับรางวัล ‘New Star ’ในที่สุดเธอก็ได้พบเส้นทางที่แท้จริงของเธอและได้รับการติดต่อจากผู้ผลิตซีรีส์กลายเรื่อง ผลงานอื่น ๆ ของเธอเช่น “The Royal Gambler“, “Blow Breeze“, “Welcome 2 Life” และ “Tazza: One Eyed Jack”
นอกจากงานแสดงเธอก็ยังมีงานด้านอื่น ๆ เธอได้รับรางวัล ‘Korean Model Star’ ในงาน “Asia Model Awards ครั้งที่ 14” ในปี 2019 และในปีเดียวกันที่งาน “Asia Artist Awards” อิมจียอนได้เป็นพิธีกรร่วมกับอีทึก
สำหรับชีวิตส่วนตัวของเธอ อิมจียอนเคยมีข่าวยืนยันการเดทกับอีอุก ประธานองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร W-Foundation ที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากภูมิอากาศ ทั้งคู่คบกันได้ 6 เดือนและเลิกกันไปโดยไม่มีเหตุผลที่แน่ชัด
เธอกลับมาอีกครั้งกับผลงานจอแก้วกับเรื่อง The Glory part 1 และ The Glory part2 รับบทเป็นตัวร้ายอย่างพัคยอนจิน อิมจียอนกล่าวว่าเธอต้องการ “เอาชนะ” “ความท้าทาย” นี้ทันทีที่อ่านบทครั้งแรก
พัคยอนจินเป็นผู้หญิงที่เกิดในครอบครัวเศรษฐีละมีความสุขกับชีวิตที่น่าพอใจกับสามีที่ร่ำรวยและลูกสาวที่ฉลาด แต่ชีวิตในฝันต้องถูกทำลายเมื่ออดีตอันแสนมืดมนของเธอถูกเปิดเผยว่าเธอเคยเป็นอันธพาลในโรงเรียน เธอต้องเผชิญหน้ากับมุนดงอึน (รับบทโดยซงฮเยคโย) เหยื่อในโรงเรียนมัธยมที่กำลังเดินทางหาคนที่เคยทำร้ายเธอให้ชดใช้
อิมจียอนได้รับการตอบรับในเชิงบวกสำหรับบทตัวร้ายครั้งแรกของเธอ เธอทำให้ผู้ชมโกรธและกลัวด้วยรูปลักษณ์และรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวซึ่งปกปิดความชั่วร้ายที่แท้จริงจากใบหน้าไร้เดียงสา
