My Lovely Liar เรื่องราวความพิเศษของนางเอกกับการแยกแยะว่าคนไหนกำลังโกหก นำไปสู่การแก้ไขคดี และรักสุดโรแมนติก
- ชื่อเรื่อง : 소용없어 거짓말
- ผู้กำกับ : นัมซังอู (Nam Sung Woo)
- นักแสดงนำ : คิมโซฮยอน, ฮวังมินฮยอน
- ช่อง : tvN
- จำนวนตอน : 16 ตอน
- รับชมซับไทยที่ : VIU
- ช่วงเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 21.00 น. เริ่ม 31 กรกฏาคม 2023
เรื่องย่อ
ว่าด้วยเรื่องราวของนางเอกที่มีความสามารถพิเศษที่สามารถแยกแยะได้ว่าคนไหนกำลังโกหก ซึ่งเธอเองเกลียดความสามารถของเธอและมองว่ามันเป็นคำสาป ด้วยความสามารถพิเศษของเธอทำให้เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้ นางเอกได้เข้าไปพัวพันกับผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม ซึ่งก็คือพระเอกที่ยืนยันว่าเขาบริสุทธิ์ แต่ไม่มีใครเชื่อเขา
นักแสดงนำ
คิมโซฮยอน (Kim So Hyun) รับบทเป็น ม๊กซอลฮี หญิงสาวผู้ที่สามารถจับคนโกหกได้
ฮวังมินฮยอน (Hwang Min Hyun) รับบทเป็น คิมโดฮา ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม
พรีวิว My Lovely Liar EP.1-2
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว 2 ตอน สำหรับซีรีส์เรื่องล่าสุดที่ได้สองพระนางอย่าง ฮวังมินฮยอน และ คิมโซฮยอน มาประกบคู่กันในซีรีส์เรื่อง “My Lovely Liar” ซีรีส์ที่ว่าด้วย ชีวิตของ “มกซลฮี” รับบทโดย คิมโซฮยอน หญิงสาวผู้มีพลังพิเศษตรวจจับความจริงได้ว่าใครพูดโกหกหรือพูดความจริง ถึงขนาดที่เอาความสามารถพิเศษนี้มาทำเป็นอาชีพหารายได้ให้กับตัวเองเลย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับเพื่อนบ้านรายใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา ชายหนุ่มคนนั้น คือ “คิมโดฮา” รับบทโดย ฮวังมินฮยอน เขาคือนักแต่งเพลงอัจฉริยะ ที่ไม่เคยมีใครได้เจอตัวจริง แถมยังมีอดีตที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เลยต้องใช้ชีวิตแบบเก็บตัวมาตลอด เพราะไม่อยากให้ชีวิตตัวเองไปเกี่ยวข้องกับใคร
พูดถึงความสามารถพิเศษของนางเอก จริง ๆ ไม่อยากเรียกว่า ได้ยินคำโกหกจากคนอื่น เพราะมันไม่ได้ออกมาเป็นรูปแบบของเสียงในหัว หรืออ่านความคิดได้ แต่เป็นเหมือนสัญญาณแจ้งเตือนที่ดังขึ้นมาในหู ว่าคนนี้พูดจริง คนนี้พูดโกหก โดยมีเงื่อนไขว่า การจะใช้ความสามารถนี้ได้ นางเอกจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่นั้นด้วย ฉากเปิดเรื่องเราเลยได้เห็น “ซลฮี” เปิดตัวที่ตึกร้าง พร้อมกับกลุ่มแก๊งมาเฟียที่จ้างเธอมาจับเท็จหนอนบ่อนไส้ในแก๊ง เพื่อให้ผู้ชมเห็นว่า พลังพิเศษแบบนี้ทำงานยังไง
ส่วนพระเอกของเรา “คิมโดฮา” ที่ถูกวางคาแรคเตอร์ไว้ให้เป็นคนมีปมในใจ ไม่กล้ามีปฏิสัมพันธ์กับใคร เพราะต่อให้เขาแสดงความจริงใจแค่ไหน พูดความจริงยังไงก็ไม่มีใครเชื่อ ซีรีส์ก็เปิดเรื่องราวมาให้เราได้เห็นเส้นทางชีวิตของเขา และการใช้ชีวิตแบบไม่เปิดเผยตัวตน จนคนเอาไปมโนกันว่า ตัวจริงของ คิมโดฮา อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ เลยต้องปกปิดตัวตนไม่ให้ใครรู้ (อันนี้ฮา) พอ ๆ กับซีนเจอหน้านางเอกโดยบังเอิญหลายครั้ง แถมต้องมาใช้ชีวิตแบบเจอหน้ากันบ่อยเกินจน งง ถึงขนาดนางเอกรับงาน ยังไปเจองานที่พระเอกมีนัดไปเจอกับลูกค้าของนางเอกเข้าพอดี กลายเป็นซีนนางเอกช่วยพระเอกแบบไม่ได้ตั้งใจไปหลายทีเลย
ใครที่ชื่นชอบผลงานของทั้งคู่ หรือชอบหนังฟีลแบบไม่ซีเรียสเกินไป My Lovely Liar เป็นซีรีส์เปิดช่วงต้นสัปดาห์ที่เหมาะกับการนั่งดูแบบเพลิน ๆ สัปดาห์ละ 2 ตอน
รีวิว My Lovely Liar EP. 3-4
ออกอากาศมาแล้ว 4 ตอน สำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่อง My Lovely Liar ของสองนักแสดงนำ ฮวังมินฮยอน รับบทเป็น “คิมโดฮา” และ คิมโซฮยอน รับบทเป็น “มกซลฮี” เพื่อนห้องข้าง ๆ ของนักแต่งเพลงชื่อดังที่พยายามใช้ชีวิตหลบหนีจากผู้คนมาตลอด แต่แล้ววันหนึ่งด้วยความบังเอิญชีวิตที่เคยอยู่แบบลึกลีบของเขา ก็มีเพื่อบ้านอย่าง ซลฮี เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแบบไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ว่าความสามารถของเธอ คือ การรับรู้คำโกหกของผู้คนได้ผ่านความสามารถพิเศษของตัวเอง แต่พอได้มาเจอกับ โดฮา ความสามารถพิเศษของเธอก็เหมือนจะใช้ไม่ได้ผล จนคนใกล้ชิดของ ซลฮี ที่รู้ถึงพลังพิเศษนี้ ทักขึ้นมาว่า หรือนี่จะเป็นสัญญาณเตือนว่า ซลฮี กำลังเจอกับเนื้อคู่ของตัวเอง
นี่คือจุดเริ่มต้นของแผนกระชับความสัมพันธ์ของ ซลฮี ที่อยากจะพิสูจน์ว่า พลังของตัวเองใช้ไม่ได้ผลแค่กับเขาเพียงคนเดียว หรือเป็นเพราะพลังของเธอหยุดทำงานไปเองกันแน่ ในขณะที่ “โดฮา” ก็เริ่มรู้สึกถูกชะตากับเพื่อนสาวข้างห้องมากขึ้นทุกที เพราะต่อให้เธอเห็นหน้าเขาตอนที่ไม่ใส่แมสก์แล้ว แต่เธอก็ทำเหมือนกับว่า เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แถมยังคอยไล่นักข่าวที่แอบมาหาถึงที่พักของ โดฮา แล้วแกล้งบอกกับเขาไปว่า เธอคิดว่ากำลังช่วยเขาหนีจากเจ้าหนี้ที่คอยตามอยู่ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ โดฮา ไม่ขอย้ายที่อยู่ถึงจะผิดไปจากเงื่อนไขหลายข้อที่เขาเคยบอกกับเพื่อนสนิทที่คอยจัดการดูแลชีวิตส่วนตัวของเขามาตลอด
ฉากนึงที่เราชอบมาก คือ ฉากในร้านอาหารที่ ซลฮี วางแผนจะจับโกหก โดฮา แต่เพราะเธอไม่เคยได้ยินสัญญาณเตือนว่าเขาโหกมาก่อนเลย ทำให้เธอไม่แน่ใจว่าเขาพูดจริงหรือโกหกกันแน่ เธอเลยขอให้เขาลองโกหกว่าเธอสวยดู เพื่อจะให้แน่ใจ แต่พอโดฮา ชมว่า คุณสวย ขึ้นมาจริง ๆ กลับไม่มีสัญญาณเตือนโกหกออกมาเลย ทำเอา “ซลฮี” ถึงกับไปไม่เป็น ก่อนที่ซีนต่อมาจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับ โดฮา ซึ่งทำให้เธอได้เห็นด้านที่อ่อนแอ และเป็นปมในใจของเขามาตลอด เกี่ยวกับเรื่องราวคดีฆาตกรรมในอดีตที่ตามหลอกหลอน โดฮา จนเก็บเอาไปฝันร้ายทุกคืน แต่ปัญหา คือ ในฉากสุดท้าย สัญญาณโกหกที่ไม่เคยดังมาจากเขาเลย กลับดังเตือนให้เธอรับรู้ หลังคำพูดของ โดฮา ที่ละเมอพูดขึ้นมาว่า “ผมไม่ได้ฆ่าเธอ”
นี่คืออีกหนึ่งซีรีส์ช่วงต้นสัปดาห์ที่ดูเพลิน แถมคู่พระนางยังน่ารักมาก ๆ มีปมเรื่องให้ติดตาม และทำให้เราอมยิ้มไปกับความสัมพันธ์แบบเพื่อนข้างห้องของทั้งคู่ได้แบบไม่เบื่อเลย
รีวิว My Lovely Liar EP. 5-6
ต้องยอมรับว่าช่วงนี้สายแฟนตาซีมาแรงมากจริง ๆ ไม่ว่าจะหันไปที่แอปไหน ก็มีซีรีส์แนวนี้ออนแอร์ให้ได้รับชมกันตลอดทั้งสัปดาห์ ที่มาพร้อมกับระดับพลังแบบซุปเปอร์ฮีโร่แบบมาร์เวล แต่สำหรับเรื่อง My Lovely Liar บนแอป Viu พลังของ “ซลฮี” (คิมโซฮยอน) ออกจะไปในทางความเชื่อแนวร่างทรง องค์เทพลงมาประทับมากกว่าที่จะเป็นพลังเหนือธรรมชาติสเกลสูงมากแบบเรื่องอื่น เพราะแกนหลักของซีรีส์ต้องการเล่าไปที่ชีวิตของตัวละครหลักอย่าง “คิมโดฮา” (ฮวังมินฮยอน) นักแต่งเพลงอัจฉริยะ ที่ใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ มานานหลายปี จนกระทั่งชะตาชีวิตพาให้เขาย้ายมาเจอเพื่อนบ้านอย่าง ซลฮี
ในสัปดาห์นี้ ซีรีส์พาเราย้อนกลับไปยังชีวิตของ โดฮา ในช่วงที่ยังสดใส ร่าเริง เต็มไปด้วยเพื่อนล้อมรอบ และมีผู้หญิงที่เขาพูดได้เต็มปากว่า เป็นฝ่ายชอบเธอก่อนต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องทุกคน ถึงแม้ว่าซีรีส์จะยังไม่ได้เล่าแบบลึกมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างความรักของทั้งสองคนที่ดูเหมือนจะไม่ได้ราบรื่น สวยงามในแบบที่หลายคนคิด แต่ก็พอจะทำให้เราเห็นถึงปมในใจของตัวละครนี้ได้ ว่าอะไรทำให้เขากลายมาเป็นคนที่เก็บตัวแบบนี้ ในขณะที่ฝั่งของ ซลฮี ก็ไม่ได้มีแค่ด้านที่สดใส ใช้ชีวิตไปกับพรสวรรค์ที่มีเพื่อหาเงินเสมอไป เพราะในมุมหนึ่ง สิ่งที่เธอทำได้ กลับกลายเป็นอุปสรรคในการค้นหาความรักที่จริงใจจากใครสักคนเช่นกัน แต่การได้มาพบกับ โดฮา ชายหนุ่มลึกลับที่ทุกคำพูดของเขาไม่เคยมีคำโกหกออกมาเลย ทำให้ความรู้สึกของ ซลฮี เปลี่ยนไป
เราจึงได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ และใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นของทั้งสองคน ที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่หลังจากที่ ซลฮี เห็นด้านที่อ่อนแอของ โดฮา ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา กลับไม่ใช่การมองแบบคนแปลกหน้า แต่เป็นความรู้สึกเห็นใจ อยากให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตแบบที่คนทั่วไปได้ใช้ ไม่จมอยู่กับฝันร้ายที่น่าหวาดกลัวในอดีตอีกต่อไป ฉากที่ทั้งสองคนนอนค้างคืนด้วยกัน ที่ซีรีส์ทำออกมาได้น่ารักดี เลยเป็นเหมือนกับประตูบานแรกที่ทำให้ทั้งสองคนเริ่มได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน
ในฉากปิดท้ายของ EP.6 ประเด็นที่ซีรีส์ทิ้งไว้ให้เราลุ้นว่า โดฮา จะไปต่อกับ ซลฮี หรือไม่ คือ ฉากที่ ซลฮี เปิดเผยความจริงกับ โดฮา ว่าเธอมีความสามารถในการจับโกหกคนได้ พรสววรค์ที่ดูเหมือนจะดีสำหรับคนที่อยากเอามันไปใช้เพื่อตัวเอง แต่สำหรับ ซลฮี ความสามารถนี้ทำให้คนที่อยู่รอบตัวของเธอเหลือน้อยลงไปทุกที
รีวิว EP. 7-8
เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคำว่า “เพื่อนบ้าน” ระหว่างนักล่าคำโกหก “ซลฮี” กับ นักแต่งเพลงที่มีปมในใจอย่าง “โดฮา” ที่ในสัปดาห์นี้ซีรีส์เล่าถึงเหตุการณ์หลังจากที่ ซลฮี ตัดสินใจบอกความจริงเกี่ยวกับพลังในการจับโกหกของเธอให้เขาฟัง เพราะเธอคิดว่า สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดี แต่แทนที่หลังจากรู้ความจริง โดฮา จะเลือกทิ้งเธอไป เขากลับขยับความสัมพันธ์เข้ามาใกล้ชิดกับ ซลฮี มากขึ้นกว่าเดิม แมสก์ที่เคยใส่ตลอดก็ถูกถอดออกไป เพราะเขามีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับ ซลฮี ถึงขนาดฝืนคำสั่งของแม่ที่อยากให้เขาหลบไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศในช่วงที่กำลังจะลงเลือกตั้ง
สัปดาห์นี้ จุดโฟกัสของซีรีส์เลยอยู่ที่การปรับอารมณ์ของ ซลฮี ที่มีต่อ โดฮา เกี่ยวกับความจริงที่ว่า เขาเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม และถึงแม้ว่า เขาจำปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่สัญญาณการจับโกหกที่ไม่เคยดังในหัวของ ซลฮี เลย นับตั้งแต่ได้พบกับ โดฮา กลับยิ่งมัดตัวของ โดฮา ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมา เป็นคำโกหกแรกที่เธูอได้ยินจาก โดฮา ผู้ชายที่ไม่เคยพูดโกหกเลย ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
ฉากหนึ่งที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนความรู้สึกของ ซลฮี คือ ฉากที่เธอได้คุยกับรุ่นพี่ที่ชอบเธอ หลังจากเหตุการณ์ที่เธอรู้ว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สาม แต่ไม่ยอมบอกความจริงกับเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะรู้สึกแย่ไปกับเขาด้วย คำพูดหนึ่งที่เขาบอกกับเธอ คือ ขอให้กลับมาคบกันอีกครั้ง แต่ในหัวของเธอกลับนึกถึงภาพของ โดฮา และมันก็ทำให้เธอรู้ว่า จริง ๆ แล้ว ความรู้สึกที่เธอมีต่อเพื่อนบ้าน คือ ความรู้สึกชอบที่มากจากหัวใจของตัวเองจริง ๆ
และในฉากปิดท้ายของ EP.8 ซลฮี ก็ได้พูดในสิ่งที่ โดฮา อยากได้ยินคำนั้นจากปากของใครสักคนตลอดมา นั่นคือคำพูดที่ว่า เธอเชื่อในตัวของ โดฮา ถึงแม้ว่าเธอจะได้ยินเสียงคำโกหกจากเขาก็ตาม ซึ่งในสัปดาห์หน้า อดีตของ โดฮา กำลังจะกลับมาตามหลอกหลอนเขาอีกครั้ง พร้อมกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนที่เขาห่วงใยด้วย
รีวิว EP. 9-10
ในที่สุดก็เดินเรื่องมาถึงจุดที่ต้องเฉลยแล้วว่าความหลังฝังใจของ “คิมโดฮา” คืออะไร ทำไมสัญญาณการโกหกถึงดังเตือน “ซลฮี” ตลอดเวลาที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ ซีรีส์พาเราย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่เขากับ “ออมจี” แฟนเก่าของโดฮา พยายามรักษาสภานะ “คนรัก” ไว้ด้วยกันหลังจากเรียนจบ มีเพียง “โดฮา” ที่ทำตามความฝัน เข้าไปศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ ในขณะที่แฟนสาวของเขา ไม่ได้เรียนต่อ เพราะปัญหาครอบครัวที่สะสมมานาน แถมยังถูกพี่ชายพูดกรอกหูทุกวัน ว่ามีเพียง “โดฮา” คนเดียวเท่านั้น ถึงจะทำให้เธอออกไปจากวังวนชีวิตแบบนี้ได้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอหึงหวง โดฮา มากเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เรื่องราวที่เริ่มต้จากความเข้าใจผิด เลยกลายเป็น “คำโกหก” ที่เขาพูดออกไป เพียงเพราะต้องการให้เธอยอมปล่อยมือเขาไป
สัญญาณโกหกที่ “ซลฮี” ได้ยิน เลยแปลได้อย่างเดียว ว่านับตั้งแต่วันที่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมแฟนของตัวเอง โดฮา ก็เขื่อมาตลอดว่า เขาคือต้นเหตุที่ทำให้ ออมจี ต้องจบชีวิตตัวเอง การได้พบกับเพื่อนบ้านอย่าง “ซลฮี” ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราชอบซีนที่ ซลฮี ปลอบใจ โดฮา ว่าเขาไม่ได้ฆ่าใคร เพราะเธอยอมรับเขาในฐานะ ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรักจริง ๆ ไม่ใช่เพราะว่าเขา คือ “คิมโดฮา” นักแต่งเพลงอัจฉริยะ สัปดาห์นี้เลยเรียกได้ว่า ซีรีส์จัดเต็มความฟินระดับเซอร์วิสแฟนคลับหลายฉากเลย ทั้งฉากตั้งแคมป์ ฉากนอนห้องเดียวกัน ใส่เสื้อบอลเหมือนกัน แถมฉากขอเป็นแฟนที่โคตรน่ารักไปอีกหนึ่งซีน
แต่เวลาของความสุขจะอยู่ยาวนานแค่ไหน ก็คงลืมว่า ประเด็นดราม่าเรื่องที่ โดฮา ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตายยังมีอยู่เสมอ ไหนจะพี่ชายของ ออมจี ที่ไม่เคยปล่อยวางเรื่องน้องสาว จนวนกลับมาลอบทำร้าย โดฮา จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ไหนจะเรื่องแม่ของเขา ที่ไม่เคยหยุดคิดเรื่องที่ลูกชายของตัวเองกลายเป็นตัวปัญหา ทั้งหมดนี้คือด่านต่อไปที่รอให้ โดฮา กับ ซลฮี ฟันฝ่าไปด้วยกันให้ได้ แต่ประเด็นที่น่าสนใจในสัปดาห์หน้า คือ เรื่องการพบศพของใครบางคนบนเนินเขา ที่จะทำให้ความรู้สึกของ โดฮา กลับไปจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกผิดอีกครั้ง
รีวิว EP.11-12
“ศพปริศนาที่อยู่บนเนินเขา” เรื่องราวในสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยการค้นพบศพที่ถูกสงสัยว่าจะเป็นของ ออมจี อดีตคนรักของ คิมโดฮา ที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน แต่แทนที่คดีจะถูกไขให้กระจ่าง ตำรวจเจ้าของคดีกลับแอบเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญไว้กับตัวเอง แถมยังรายงานความคืบหน้าของคดีไปให้แม่ของ โดฮา รับรู้สถานการณ์เพื่อที่จะได้เตรียมจัดการล่วงหน้า นั่นก็แสดงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความลับที่ถูกอำนาจของแม่ โดฮา สั่งให้ปิดไว้จริง ๆ
ในขณะที่ โดฮา หลังจากเริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เคียงข้างกับผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักอย่าง ซลฮี ก็ดูเหมือนอะไร ๆ จะเข้าที่เข้าทางมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบหลบซ่อนใครอีกต่อไป ไม่ต้องใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าตลอดเวลา แถมมีความกล้าที่จะขึ้นไปแสดงบนเวที เพื่อช่วยสานฝันให้น้องชายของนักร้องนำวงไอดอลในสังกัดของเพื่อนตัวเอง ชนะราลวัลในงานเทศกาลระดับชุมชน แต่กลายเป็นว่า ความใจดีนั้น ทำให้สังคมออนไลน์เริ่มกลับมาพูดถึงลูกชายของ ส.ส. ที่เคยมีประวัติต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมเมื่อหลายปีก่อนอีกครั้ง จุดกระแสให้นักข่าวเริ่มกลับมาสนใจประเด็นนี้มากขึ้น
ตัดภาพมาที่ฝั่งของพี่ชาย ออมจี ที่ถูกวางไว้ให้เป็นคนคอยติดตามคุกคามชีวิตของ โดฮา มาตั้งแต่ EP แรก ในสัปดาห์นี้ การที่ตำรวจค้นพบศพที่น่าจะเป็นร่างของ “ออมจี” แต่กลับไม่สามารถแจ้งความคืบหน้าของคดี หรือหาตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ยิ่งทำให้ความรู้สึกอยุติธรรมที่อยู่ในใจของพี่ชายออมจีเพิ่มมากขึ้น เขาเลยตัดสินใจ ทพเรื่องร้ายแรงลงไป ถึงขนาดบุกไปแทง โดฮา ที่กำลังจะกลับมาบ้าน แต่แทงผิดคน จนถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ ต่อมาเมื่อ โดฮา เริ่มสืบให้ลึกลงไป ถึงความเชื่อมโยงจากแต่ละคนที่เขานึกออก ผู้ต้องสงสัยที่เขาต้องตามหาตัวให้เจอ เลยไม่จำเป็นต้องไปหาไกลที่ไหน แต่เป็นน้องชายของเพื่อนเขาเอง ที่เขาต้องอาศัยความสามารถพิเศษของ ซลฮี เค้นหาความจริงว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่
รีวิว My lovely Liar ตอนจบ
ลาจอไปแล้วอีกหนึ่งเรื่องกับซีรีส์เรื่อง My Lovely Liar ที่จับเอาแนวคิดเรื่องพลังพิเศษมาอยู่ในเส้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองตัวได้แบบไม่แฟนตาซีเกินไป ท่ามกลางตัวละครเสริมมากมาย ที่สุดท้ายก็ได้ซีนของตัวเองแทบจะทุกคน ซึ่งในสัปดาห์นี้ปมปริศนาต่าง ๆ ถือว่าคลี่คลายแทบจะทั้งหมดแล้ว เหลือแค่บทสรุปทั้งความสัมพันธ์ของ ซลฮี กับ โดฮา และสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์เนื้อหาสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู เราจะขอแบ่งส่วนของการเขียนออกเป็นส่วนของรีวิว และส่วนของการสรุปเนื้อหา ใครที่ดูจบแล้ว อยากอ่านสรุปอีกครั้ง เพื่อไปคุยต่อในคอมเมนต์สามารถข้ามพาร์ทรีวิวไปได้เลย
พาร์ทรีวิว
หลังจากดูจบแล้ว ส่วนตัวเราให้ความสำคัญกับเคมีที่เข้ากันดีของพระนางในเรื่องมากกว่า “เนื้อเรื่อง” ถึงแม้ว่าตัวละครอย่าง “ซลฮี” จะมีความสามารถในการจับโกหกที่เหนือมนุษย์ แต่ซีรีส์ดูเหมือนไม่ได้เน้นให้เรามองนางเอกในมุมนั้น แต่ซีรีส์พยายามให้เห็นปัญหาที่เกี่ยวกับการมีพลังแบบนี้มากกว่า “การจับโกหก” จึงเป็นเหมือนอุปกรณ์เสริมที่ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนในเรื่อง แม้ว่าอาชีพของนางเอกจะเป็นการจับโกหกคนก็ตาม
แต่เมื่อความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาไปมากขึ้น สิ่งที่ซีรีส์ให้ความสำคัญมากกว่านั้นคืออดีตของ “คิมโดฮา” ที่ได้รับผลกระทบจากการจากไปของคนรักในอดีต ซึ่งทำให้เขาต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านมากกว่าการออกไปข้างนอก แถมยังต้องเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ตัวละครอย่าง “โดฮา” ก็มีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง ทั้งรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือ และพี่ชายของแฟนเก่าที่คอยตามดูความเคลื่อนไหวของเขาไปทุกที่
จุดเด่นที่เราชอบ คือ ซีรีส์เล่าเรื่องค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน มีตัดสลับไปหาอดีตบ้าง แต่โฟกัสการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง โดฮา กับ ซลฮี มากกว่า แถมใส่โมเมนต์น่ารัก ๆ แบบเซอร์วิสแฟนคลับให้ได้ใจฟูกันเป็นระยะด้วย ดูแบบรวดเดียวก็น่าจะจบได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ใครชื่นชอบการแสดงของ คิมโซฮยอน กับ ฮวังมินฮยอน My Lovely Liar คืออีกหนึ่ง Viu Original ที่น่าดูมาก ดูแบบซับไทยได้เลยรวดเดียวจบที่ Viu เท่านั้น
พาร์ทสรุป
มาถึงส่วนของการสรุปเนื้อเรื่อง ที่เราขอยดมาปิดท้ายบทความนี้ด้วยการชวนพูดคุยถึงเนื้อหาในภาพรวม หลังจากทุกอย่างในซีรีส์คลี่คลายแล้ว สรุปว่า ความสัมพันธ์ของ ซลฮี กับ คิมโดฮา ที่ประคับประคองกันมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าระหว่างทางจะเจอปัญหาจากคนรอบตัวมากมาย ไล่ไปตั้งแต่ประธานบริษัทฯ ที่คอยตามคุมพฤติกรรมของเขาเหมือนเงาตามตัว น้องชายของประธานที่คอยมาตามไถเงินจากเขา ไปจนถึงแม่ของ โดฮา ที่พยายามไม่ให้ปัญหาของลูกชายกลายเป็นประเด็นทางสังคมย้อนกลับมาโจมตีตัวเองในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
ส่วนชีวิตของ “ซลฮี” ที่เหมือนจะมีพลังพิเศษจับโกหกคนได้ แต่ความสามารถนั้น กลับไม่ได้สร้างความสุขให้กับเธอ เหมือนกับที่ใครคาดคิด เพราะนอกจากชีวิตครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกันแล้ว การเปิดใจคบใครสักคนก็ยิ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก เพราะทุกคำพูดของฝ่ายตรงข้าม จะถูกตรวจจับเจอคำโกหกด้วยพรสรรค์ของเธอเสมอ แต่การได้เจอกับ “โดฮา” ทำให้ ซลฮี มองความสามารถนี้ของเธอเปลี่ยนไป เพราะนอกจากมันจะช่วยให้ โดฮา ค้นพบคำตอบว่าใครคือฆาตกรตัวจริงแล้ว พรสรรค์นี้ ยังทำให้ ซลฮี กล้าที่จะเลือกเชื่อ “ความรัก” มากกว่า “คำโกหก” ที่คอยดังแจ้งเตือนอยู่ในหูของเธอ
แต่จุดที่เราชอบที่สุด คือ เรื่องราวของแฟนเก่า โดฮา ที่ชื่อว่า “ออมจี” ถึงแม้ว่าในตอนแรก ตัวละครนี้ดูเหมือนจะทำตัวไร้สาระ เอาแต่ใจมากจนดูไร้เหตุผล แต่พอถึงจุดที่เฉลยความเป็นมาของตัวละครนี้ สาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิต และแชทสุดท้ายที่เธอเขียนถึง โดฮา ความรู้สึกที่เรามีต่อตัวละคร ออมจี ก็เปลี่ยนไป เหมือนที่สุดแล้ว สิ่งที่เธออยากบอก โดฮา ก็มาถึงมือของคนที่เธอต้องการจริง ๆ
ส่วนประเด็นของ “ฆาตกรตัวจริง” ที่มีการเฉลยตั้งแต่ก่อนจะถึงเรื่องของ ออมจี ใครดูแบบตอนต่อตอน น่าจะเห็นพฤติกรรมแล้วพอเดาได้ ว่าตัวละครนี้มีความรู้สึกแบบไหนให้กับ โดฮา ประเด็นที่เขาสารภาพว่า ไม่ทำลายหลักฐานเพราะถ้าวันไหน ปัญหามาตกที่ โดฮา เขาก็พร้อมจะมอบตัวทันที คือ สิ่งที่ซีรีส์ใส่เข้ามาให้เห็นว่าตัวละครนี้พร้อมจะทำทุกอย่างที่จะเข้ามาทำร้าย โดฮา เสมอ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
แต่ถ้าจะให้สรุปว่าใครแตกสลายมากที่สุดในเรื่องนี้ ตัวละครนั้นคงเป็น “พี่ชาย” ของออมจี ที่ต้องพบกับความจริงว่า คนที่เขาโทษมาตลอดอย่าง โดฮา ไม่ได้ทำความผิดอะไรต่อน้องของเขาเลย เป็นเขาเองต่างหากที่เอาความคิดเรื่อง โดฮา เป่าหูน้องตลอด และเป็นเขาเองที่เกือบจะแก้แค้นคนผิด ลงมือฆ่าผู้ชายที่น้องตัวเองรักมากให้ตายตามน้องสาวไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครเสริม ที่ทำให้ความดราม่าของซีรีส์เรื่องนี้ดูเข้มข้นขึ้น เท่ากับที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกันกับคู่ของพ่อกับแม่ของ ซลฮี ที่ถูกยกมาปิดท้ายใน EP.16 ทำออกมาได้กลมกล่อม ไม่ยืดเยื้อ กลายเป็นเคสปิดท้ายตอนจบของเรื่องราว “นักล่าคำโกหก“ ที่สุดท้ายแล้วก็ค้นพบว่า การใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาก็ไม่ได้แย่อะไร ขอแค่มีคนที่รักเรา และเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่เคียงข้างก็พอ
โปสเตอร์
