Project Wolf Hunting เป็นเรื่องราวสถานการณ์สุดระทึกหลังจากสนามบินโดนระเบิดอย่างปริศนา วิธีเดียวที่จะขนส่งนักโทษอุกฉกรรจ์จากมะนิลากลับเกาหลีได้มีเพียงแค่ทางน้ำเท่านั้น อาชญากรเดนมนุษย์ทั้ง 47 ชีวิตต้องเดินทางด้วยเรือฟรอนเทียร์ ไททัน ระยะทางกว่า 1,630 ไมล์ ท่ามกลางความเดือด และความอำมหิตของเหล่าอาชญากรที่ต้องการอิสรภาพต่างรวมตัวกันก่อกบฏเพื่อหลบหนีและแหกคุกปิดตายกลางทะเล พร้อมเผชิญหน้ากับมือปราบมือหนึ่งที่มาร่วมปฏิบัติการณ์บนเรือคลั่งเหนือผืนน้ำในครั้งนี้ เมื่อไร้กฎ ไร้ทางหนี ทางเดียวคือ ยิ่งเลว ยิ่งรอด
ก่อนอื่นต้องบอกว่าตอนเห็นตัวอย่างของหนังเรื่องนี้ครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ เราพอจะเดาออกว่าหนังต้องทำออกมาโหด และสะใจคอหนังสายเอ็กซ์ตรีม ที่ชอบฉากแอ็คชันแบบมันส์ ๆ แนวไล่ล่ากันในพื้นที่จำกัดแน่นอน
แต่พอถึงวันที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ ต้องยอมรับเลยว่า หนังพาเราไปพบกับประสบการณ์ความบ้าคลั่งแบบสุดขีดได้จริง ๆ สมกับเรท 20+ ที่ต้องตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าชม เพราะตลอดความยาวสองชั่วโมงกว่า หนังเซอร์วิสฉากนองเลือด และฉากความรุนแรงมาให้แบบไม่หยุดพักหายใจ ใครที่รู้ว่าตัวเองคือคอหนังแนวนี้ ห้ามพลาดรับชม Project Wolf Hunting ในโรงภาพยนตร์ด้วยประการทั้งปวง
สำหรับเรื่องต่อมาที่ต้องพูดถึง คือ ส่วนของนักแสดงนำ อันนี้บอกเลยว่า ใครมีภาพจำของ “ซออินกุก” กับ “จางดงยุน” ในแบบฉบับซีรีส์ แล้วตีตั๋วมารับชมหนังเรื่องนี้ คาแรคเตอร์ของตัวละครอย่าง “พัคจงดู” และ “อีโดอิล” จะติดตาคุณไปหลังออกจากโรงหนังแน่นอน โดยเฉพาะ ซออินกุก ที่ทุ่มเทให้กับบทนี้อย่างมาก จนสามารถทำให้เราเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเขาคือฆาตรกรโรคจิต ที่ชื่นชอบการฆ่าคนเป็นชีวิตจิตใจจริง ๆ
ส่วนฉากไล่ล่าบนเรือ และการออกแบบฉากแอ็คชันของหนังเรื่องนี้ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีบางจุด ที่ดูเล่นง่ายเกินไปหน่อย ไม่ค่อย Make sense เท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เมื่อมองภาพรวมในโลกอาชญากรที่หนังสร้างขึ้นมา หนังเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ที่จะถูกสานต่อในอนาคต หากหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จในต่างประเทศแบบที่ Train To Busan เคยทำไว้
เตรียมหัวใจให้พร้อม ก่อนตีตั๋วเดินทางไปกับเรือนรก
3 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
