เรื่องน่ารู้ของชินมินอา พร้อมประวัติและผลงาน

You are currently viewing เรื่องน่ารู้ของชินมินอา พร้อมประวัติและผลงาน

แรงบันดาลใจในการทำงานที่หลากหลายของเธอเห็นได้จากการเลือกรับบทบาทต่าง ๆ ชินมินอาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เธอมีทั้งความสวยและความสตรองผ่านการแสดงของเธอ

บนรันเวย์เธอก็เป็นนางแบบที่มีแต่คนจับตามอง ส่วนบนจอโทรทัศน์เธอก็เป็นนักแสดงที่มีแนวทางของตัวเอง เช่นผลงานอย่าง Oh My Venus (2015) ที่ชินมินอารับบทเป็นทนายความที่น้ำหนักเกิน หรือก่อนหน้านี้กับบทจิ้งจอก 9 หางในเรื่อง My Girlfriend is a Gumiho (2010) แต่จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชินมินอาน่าจะเป็นความเต็มใจของเธอที่อยากลองรับบทให้หลากหลาย เห็นได้จากอาชีพการแสดงของเธอ

ชินมินอาเป็นนางแบบมาหลายปีก่อนจะเข้าสู่วงการการแสดง รวมถึงมีผลงาน mv หลายเพลง นอกจากนี้ชินมินอายังมีความสามารถในการร้องเพลงอีกด้วย ในแวดวงอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญคงเป็นการแสดงภาพยนตร์ ซึ่งผลงานภาพยนตร์ของชินมินอาเช่น  Volcano High (2001) ประกบจางฮยอก และ Madeleine (2003) แสดงร่วมกับโจอินซอง

เพราะชินมินอาเริ่มทำงานตั้งแต่วัยรุ่นเธอจึงแอบเสียดายช่วงเวลาวัยเรียน แต่เธอก็นึกขอบคุณที่มันทำให้เธอได้พบเส้นทางอาชีพที่ชอบและทำให้เธอพัฒนาตนเองจนทำงานได้ดีขึ้น ความสามารถของชินมินอาได้พิสูจน์ผ่านการรับบทตัวละครสมทบในภาพยนตร์แนว noir เรื่อง A Bittersweet Life (2005) นำแสดงโดยอีบยองฮอน จากนั้นชินมินอาก็มีผลงานออกมาเรื่อย ๆ ทั้งตัวละครหูหนวกใน Sad Movie, ดาราดาวรุ่งจาก A Love to Kill, สาวตาบอดเรื่อง Beast and the Beauty, บรรณารักษ์ที่เก็บตัวเงียบ ๆ แต่มีความสามารถพิเศษแปลก ๆ ใน The Devil ไปจนถึง My Mighty Princess เมื่อปี 2007 รับบทเป็นนักต่อสู้ที่มีจุดแข็ง

ชินมินอาเริ่มได้รางวัลจากการแสดงเรื่อง Go Go 70s (2008) ภาพยนตร์มิวสิคัลพีเรียด เธอรับบทเป็นแฟนคลับของวงร็อคอินดี้, Devils ทำให้เธอเป็นดาราแถวหน้า ด้วยการเลือกรับบทที่ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จตลอดทำให้ชินมินอามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ, การแสดงที่ยอดเยี่ยมจากบทภรรยาที่นอกใจสามี The Naked Kitchen (2009) ทำให้ ménage à trois (การแต่งงาน 3 คนที่เป็นไปตามประเพณี) ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก, ภาพยนตร์เรื่อง Sisters on the Road (2008), ซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ Arang และ the Magistrate (2012) ล้วนทำให้ชินมินอาโดดเด่นด้วยสไตล์ของเธอ

เมื่อชื่อเสียงของชินมินอาดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็ยิ่งท้าทายตัวเองด้วยการรับบทที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งหนังสั้นระทึกขวัญเรื่อง The X (2013), Gyeongju (2014) แนวโรแมนติก ไปจนถึงแนวโรแมนติก-คอมเมดี้อย่าง My Love, My Bride (2014), Tomorrow, แฟนตาซี-เมโลดราม่าเรื่อง With You (2016), ภาพยนตร์ลึกลับอย่าง Diva (2018) และซีรีส์แนวการเมืองเรื่อง Chief of Staff (2019)

ส่วนผลงานล่าสุดได้แก่บทหมอฟันใน Hometown Cha-Cha-Cha (2021), คู่สามีภรรยาที่แยกทางกันใน Our Blues (2022) 

Leave a Reply