รีวิว Sweet Home 2 – เพราะเราทุกคนต่างก็มี “สัตว์ประหลาด” ซ่อนอยู่ในตัวเอง

You are currently viewing รีวิว Sweet Home 2 – เพราะเราทุกคนต่างก็มี “สัตว์ประหลาด” ซ่อนอยู่ในตัวเอง

รีวิว Sweet Home 2 – ยินดีต้อนรับเหล่าสมาชิกอพาร์ตเมนต์กรีนโฮมกลับสู่โลกแห่งการดิ้นรนเอาตัวรอดกันอีกครั้ง หลังจากความสำเร็จของ Sweet Home ซีซั่นแรก สามารถเซ็ตโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดอาละวาดอยู่ในสถานที่ปิดตายได้สำเร็จ เกิดเป็นกระแสฮิตบอกต่อทั้งในเกาหลี และทั่วโลก ทำให้ Sweet Home ซีซั่นแรก ครองแชมป์อันดับ 1 บน Netflix รวม 90 ประเทศทั่วโลก ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัว ด้วยจุดเด่นของพล็อตเรื่องที่ว่าด้วยโลกแนวดิสโทเปีย คนหลายสิบชีวิตต้องมาอยู่รวมกันในสถานที่ปิดตาย ไม่สามารถออกไปไหนได้ ในขณะที่โลกภายนอกเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด ที่ไม่มีทางรู้เลยว่า ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของพวกมัน เหล่าผู้เอาตัวรอดต้องผนึกกำลังกันเพื่อเอาชนะสัตว์ประหลาด และช่วยคนในอพาร์ตเมนต์ไว้ให้ได้มากที่สุด

แต่สำหรับเรื่องราวในซีซั่นที่ 2 ความรู้สึกลุ้นระทึกแบบสถานที่ปิดตายถูกเปลี่ยนไป สถานการณ์เอาชีวิตรอดไม่ได้จำกัดอยู่เพียงตัวละคร 13 ชีวิต เมื่อซีรีส์เล่าเหตุการณ์แบบสานต่อจากซีซั่นแรก ไล่ไปตั้งแต่ชะตากรรมของ ชาฮยอนซู (รับบทโดย ซงคัง) หนุ่มพลังพิเศษที่กลายพันธ์เป็นสัตว์ประหลาด แต่ก็ยังสามารถประคองสติเอาไว้ได้ เขากลายเป็น “ตัวทดลอง” ที่กลุ่มนักวิจัยของทหารต้องการตัว ในขณะที่เหล่าเพื่อนบ้านจากซีซั่นแรกต้องหาทางหนีจากพื้นที่อันตราย เพื่อเดินทางไปยังโซนปลอดภัยในเขตที่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง ข้อดีของการเล่าแบบนี้คือ เมื่อโลกของตัวละครกว้างขึ้น เราจะได้เห็นสัตว์ประหลาดที่มากขึ้น และฉากต่อสู้เยอะกว่าเดิม รวมไปถึงตัวละครผู้มีพลังสัตว์ประหลาดที่เพิ่มเข้ามาอีกเยอะมากในซีซั่นนี้

Sweet Home 2

“เราทุกคนต่างก็มีสัตว์ประหลาดซ่อนอยู่ในตัวเอง”

หากใครตามดู Sweet Home ตั้งแต่ซีซั่นแรก คงจะรู้ว่า สัตว์ประหลาดแต่ละตัวเกิดจากความโลภที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์แต่ละคน เมื่อมีคนติดเชื้อ และเข้าสู่ระยะกลายร่าง เลือดกำเดาจะไหลออกมา และผู้ติดเชื้อจะเปลี่ยนไปเป็นสัตว์ประหลาดแต่ละแบบตามความโลภในใจของตัวเอง ซึ่งในกรณีของ ฮยอนซู การกลายร่างของเขา คือการมีปีกขนาดใหญ่งอกขึ้นมาที่แขนข้างเดียว เสริมด้วยพลังฟื้นฟูที่สามารถเยียวยาตัวเองได้ ในขณะที่สัตว์ประหลาดตัวอื่นเราเคยได้เห็นมาบ้างแล้วจากซีซั่นแรก โดยเฉพาะตัวละครแม่ผู้สูญเสียลูก ที่ออกมาปกป้องเด็ก ๆ ในซีซั่นที่แล้ว เราได้เห็นตัวอ่อนของลูกปีศาจที่ฟักตัวอยู่ในห้องน้ำบ้านคุณลุงขาพิการ ตัวละครจอมโหดประจำซีซั่นแรก ในซีซั่นนี้ เราจะได้เห็นเธออีกครั้ง รวมถึงลูกสาวที่อยู่ในท้องของ “ซออีกยอง” (รับบทโดย อีชียอง) ตัวละครนักดับเพลิงสาวสุดแกร่งที่อุ้มท้องลูกมาจากซีซั่นแรก

สำหรับเส้นเรื่องใน Sweet Home 2 จะเล่าเรื่องโดยแบ่งเหตุการณ์ออกมาเป็นสองเส้นเรื่องสลับไปมา โดยเส้นเรื่องแรกจะเน้นเฉพาะ ฮยอนซู ที่ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับ “พยอนซังอุก” (รับบทโดย อีจินอุค) ที่ตอนนี้ถูกสัตว์ประหลาดเข้าควบคุมร่างกาย เขาเป็นคนพาตัว ฮยอนซู แต่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางก่อนถึงที่หมาย ฮยอนซู ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และได้พบกับ “ดร.อิม“ รับบทโดย โอจองเซ เขาคือผู้คิดค้นวัคซีนที่ ฮยอนซู ต้องการ และยอมใช้ตัวเองเป็นตัวทดลองเพื่อสกัดวัคซีน MS ออกมา ในขณะที่เส้นเรื่องที่สองขจะเล่าเหตุการณ์ของฝั่งของผู้รอดชีวิตที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางหลับหนีไปยังสถานที่ปลอดภัย ภายใต้การคุ้มกันของเหล่าทหารฝีมือดี ที่ในซีซั่นนี้เป็นเหมือนพี่เลี้ยงคอยดูแลคนจากอพาร์ตเมนต์แทน ฮยอนซู

แต่ปัญหาที่ต้องยอมรับ คือ เมื่อการเล่าเรื่องไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ความยากในการเล่าเรื่องของผู้กำกับ และทีมเขียนบท ย่อมมีเยอะตามไปด้วย บวกกับตัวละครของ Sweet Home ที่เยอะมาตั้งแต่ซีซั่นแรก เมื่อมาผสมกับทีมนักแสดงใน ซีซั่น 2 อาจจะทำให้คนที่เพิ่งมาตามดู เกิดความสับสนได้ ซีรีส์คงจะเข้าใจในจุดนี้ดี เลยแบ่งการเล่าเรื่องราวของแต่ละฝั่งให้จบไปในตอน สลับฉากไปมามีบ้าง แต่ไม่บ่อย เพื่อให้ซีนอารมณ์ของตัวละครเกิดความต่อเนื่องระหว่างรับชม จุดนึงที่เราคิดว่า ซีรีส์ทำออกมาได้ดี คือ การเล่ามุมมองของสัตว์ประหลาดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ ยกตัวอย่าง สัตว์ประหลาดแม่ลูก ที่ทำเอาหลายคนเสียน้ำตา เมื่อทุกคนมองว่า ตัวละครเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์แล้ว การปฏิบัติต่อพวกมันจะรุนแรงแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ถึงสัตว์ประหลาดตัวนั้นจะไม่ได้แสดงออกถึงความรุนแรงเลยก็ตาม ยกตัวอย่างฉากที่ ฮยอนซู ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่มีแต่กล้ามเนื้อ เขารับรู้ถึงความหวาดกลัว และความเป็นมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของมัน ฮยอนซู ตั้งคำถามกับ ดร.อิม ว่า ทำไมถึงต้องทำร้ายเขาขนาดนั้น แค่เพราะว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ? ในซีนนั้น ดร.อิม บอกว่า มันไม่มีประโยชน์ต่อการทดลองแล้วก็แค่นั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่า ต่อให้มนุษย์ไม่ถูกสัตว์ประหลาดกลืนกิน แต่ความปรารถนาในใจของมนุษย์ ก็น่ากลัวไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดอยู่ดี

เรื่องหนึ่งที่ต้องชื่นชมในซีซั่นนี้ คือ ตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มเขามาอย่าง ลูกสาวของ ซออีกยอง (รับทโดย คิมชีอา) เด็กที่เกิดมาพร้อมกับพลังเปลี่ยนแปลงมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ประหลาด ในฉากที่ตัวละครนี้ถือกำเนิดขึ้น อีกยอง ตัดใจฆ่าลูกของตัวเองไม่ได้ เลยฝากไว้ให้ ฮยอนซู เลี้ยงแทน รอจนเธอพร้อมจะเจอหน้าลูกอีกครั้งถึงจะกลับมาหา แต่เมื่อกลับมาแล้ว เธอพบว่า ต่อให้เธอพยายามเลี้ยงดู หรือเปลี่ยนแปลงลูกของตัวเองมากแค่ไหน แต่สุดท้ายสิ่งที่เด็กคนนี้ทำได้ ก็มีแต่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับโลกใบนี้อยู่ดี ถือว่าเป็นช่วงซีนอารมณ์ที่ใช้เวลาไม่กี่นาที แต่ซีรีส์ทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครนี้ได้รวดเร็วมาก ซึ่งมันส่งผลกระทบไปถึงช่วงท้ายของซีซั่น เมื่อลูกสาวของเธอ ตัดสินใจเปลี่ยนแม่ให้กลายเป็นสัตวฺประหลาดเหมือนกัน น่าสนใจว่าบทบาทของนักดับเพลิงสุดแกร่งคนนี้ จะไปต่อยังไงในซีซั่นสาม

ส่วนตัวละครฝั่งผู้รอดชีวิตจากอพาร์ตเมนต์ที่มีทหารคอยคุ้มกัน จะไม่พูดถึงคู่ ซานยอง (รับบทโดย จินยอง) กับ อีนยู (รับบทโดย โกมินชี) ในซีซั่นนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เคมีของทั้งคู่ดีมาก เป็นบทบาทที่คอยช่วยเหลือกันและกัน แบบไม่ต้องยัดเยียดมากมาย เพราะสถานการณ์แต่ละอย่างเป็นเหมือนการพิสูจน์ความห่วงใยที่ทั้งคู่มีต่อกัน ถึงแม้ในซีซั่นนี้ ตัวละครอย่าง อึนฮยอก จะยังไม่ได้กลับมาแบบเต็มตัว แต่การที่ อึนยู มี ชานยอง คอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ยิ่งทำให้พาร์ทของการเอาชีวิตรอดจากเหล่าสัตว์ประหลาดสนุกมากขึ้น ถือว่าเป็นหนึ่งตัวละคนที่ประสบความสำเร็จและน่าจะได้ไปต่อในซีซั่นที่สามแบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากนัก

โดยสรุปจาก รีวิว Sweet Home 2 ยังเป็นซีรีส์ที่คงรักษามาตรฐานความเป็น K-Monster ไว้ได้อย่างน่าสนใจ เล่าเรื่องในภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น ผสมดราม่าที่หนักหน่วงของตัวละครแต่ละตัว ถึงจะมีบางช่วงที่เนื้อเรื่องวนไปมาอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ซีรีส์ต้องใช้เวลาเยอะ ในการพาเราไปทำความรู้จักกับโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดพร้อมกับตัวละคร ความยาวโดยรวมของซีซั่นนี้ถึงได้จัดเต็มให้เลยตอนละหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป ใครที่กลัวว่าจะสั้น หรือดูไปแค่แปปเดียวก็จบแล้ว สบายใจได้ แต่ถ้าถามว่าค้างคาไหม ก็ต้องตอบว่า ค้างคาแน่นอน เพราะบทสรุปของเรื่องราวที่ต่อไป ตัวละคร อึนฮยอก น่าจะเข้ามาเป็นแกนหลัก จะถูกยกไปเล่าในปีหน้า

รับชม Sweet Home 2 ได้ทั้งแบบพากย์ไทย และซับไทยที่ Netflix เท่านั้น

Leave a Reply