นักแสดงดาวรุ่ง จางดาอา (Jang Da Ah) สร้างความฮือฮาอย่างมากก่อนที่เธอจะเริ่มต้นอาชีพการแสดงด้วยซ้ำ เมื่อเธอถูกเปิดเผยว่าเป็นพี่สาวของนักร้องชื่อดัง จางวอนยอง ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มเคป๊อป IVE
การได้มีส่วนร่วมเข้ารับบทบาทนักแสดงนำในซีรีส์เรื่อง “Pyramid Game” เป็นครั้งแรกนั้น นักแสดงสาวได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเธอเป็นมากกว่าพี่สาวของนักร้องเคป๊อป โดยรับบทเป็นศัตรูตัวฉกาจ
“การเป็นพี่สาวของวอนยองถูกเปิดเผยเมื่อฉันได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ว่าฉันจะตั้งใจทำอะไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถหลีกเลี่ยงและต้องยอมรับมันให้ได้ค่ะ” นักแสดงสาวกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับ The Korea Times ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในเขตจงโน กรุงโซล วันพฤหัสบดี
“ความฝันในเรื่องการแสดงของฉันแข็งแกร่งและมั่นคงมาก และฉันก็บรรลุความฝันนั้นได้จริง ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ใส่ใจมากนักและไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกใดๆ ที่เข้ามาด้วยค่ะ”
ซีรีส์ระทึกขวัญวัยรุ่นของ Tving ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อดังในชื่อเดียวกัน โดยติดตามนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมา ซองซูจี (คิมจียอน) สู่โรงเรียนมัธยมหญิงแพ็กยอน ซึ่งทั้งชั้นเรียนเล่นเกมจัดอันดับสุดโหดที่เรียกว่าพีระมิดเกมที่เรียบเรียงโดยตัวละครของแบคฮาริน
ภายใต้ระบบนี้ ชั้นเรียนจะมีส่วนร่วมในการโหวตความนิยมทุกเดือนเพื่อจัดอันดับนักเรียนแต่ละคนจาก A ถึง F โดยปล่อยให้นักเรียนที่มีเกรดสูงกว่าสามารถควบคุมนักเรียนที่มีเกรด F ได้จนกว่าจะมีการลงคะแนนครั้งถัดไป หลังจากที่กลายเป็นเป้าหมาย ในไม่ช้าซองซูจีก็รู้ว่า เจ้าหญิงแบค เป็นผู้สร้างและผู้บงการเกม และเธอจำเป็นต้องต่อสู้กับแบคฮารินเพื่อทำลายเบื้องหน้าอันสวยงามของเธอตลอดจนลำดับชั้นทางสังคมที่เธอกำลังควบคุมอยู่
ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอน ซึ่งจะปล่อยทั้งหมดในวันที่ 21 มีนาคม กำกับโดยพัคโซยอน โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้นำซีรีส์รอมคอมเรื่อง “The Heavenly Idol” ในปี 2023
จางดาอาเล่าว่าซีรีส์นี้ถือเป็นความฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ เนื่องจากเธออยากจะถ่ายทอดตัวละครหลายชั้นเช่นนี้มาโดยตลอด และเสริมว่าเธอพยายามไม่วอกแวกกับข่าวลือเกี่ยวกับเธอและน้องสาวของเธอ
“ช่วงเวลาที่ฉันใฝ่ฝันมานานกลายเป็นจริงกับบทบาทของแบคฮาริน จาก ‘Pyramid Game’ ค่ะ … สิ่งที่ทำให้ฉันกังวลคือฉันจะสามารถทำให้ผู้ชมอินไปกับการแสดงตัวละครของฉันได้หรือไม่ เนื่องจากนี่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในการแสดงของฉัน” เธอพูดต่อว่า “ฉันต้องการบรรลุมาตรฐานที่ฉันตั้งไว้สำหรับตัวเอง ดังนั้นฉันจึงมุ่งเน้นไปที่การบรรลุมาตรฐานเหล่านั้นมากกว่าที่จะไปสนใจสิ่งอื่นค่ะ”
“ฉันอยากจะแสดงตัวละครสองด้านอย่างแบคฮาริน ขณะเดียวกัน ตัวละครตัวนี้มีทั้งนิสัยอ่อนหวานและนิสัยที่เลวร้าย ฉันก็เลยคิดว่าจะรับมือได้ดีหากรับความท้าทายนี้ไว้ และมันก็เข้ามาหาฉันเหมือนเป็นของขวัญเลยค่ะ เนื่องจากนี่ถือเป็นโอกาสในฝันของฉัน ฉันจึงเรียนหนักขึ้นและใช้เวลาในการดิ้นรนเพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อม”
แบคฮารินเติบโตมาในภูมิหลังที่โชคร้าย ถูกรังแกในฐานะเด็กกำพร้า และถูกรับเลี้ยงมาในครอบครัวกลุ่มบริษัทที่ร่ำรวยที่ไม่แยแสเธอ การถูกเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้องทำให้เธอกลายเป็นคนชอบบงการและเป็นโรคจิต ชอบการกลั่นแกล้งอย่างเป็นระบบ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจแง่มุมที่มืดมนอย่างถ่องแท้ แต่จางดาอาก็พยายามค้นหาจุดยืนที่มีเหมือนกันกับตัวละครนี้
“แบคฮารินมีสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดมากกว่าคำพูดค่ะโดยส่วนตัวแล้วฉันสนุกกับการแสดงช่วงเวลาที่เธอกำลังเผชิญกับอารมณ์ที่รุนแรงภายใน… จริงๆ เธอค่อนข้างมั่นคงและเป็นระเบียบ ซึ่งฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่คล้ายกับฉัน ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้รับอิทธิพลจากภายนอกง่ายๆ และแผนการที่อยู่ในใจของเธอค่อนข้างจะสอดคล้องกับฉันค่ะ” เธอกล่าว
“มนุษย์มีด้านที่แตกต่างกันในตัวเอง ฉันเลยสร้างเธอขึ้นมาโดยคำนึงถึงสิ่งที่ฉันจะทำถ้าฉันเป็นเหมือนเธอ ฉันรู้สึกว่าบทบาทนี้ทำให้ฉันเปิดกว้างขึ้น การแสดงเป็นแบคฮารินไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กระบวนการนี้น่าทึ่งมากและฉันก็ได้เรียนรู้จากสิ่งนี้ไปเยอะมากค่ะ”
จางดาอาแสดงความทะเยอทะยานในการแสดงของเธอ โดยถือว่าโปรเจ็กต์เปิดตัวนี้เป็นก้าวสำคัญ
“’Pyramid Game’ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกสำหรับฉันในทุกด้าน ประสบการณ์ที่ฉันได้รับจากสิ่งนี้จะเป็นรากฐานในงานใดๆ ก็ตามที่ฉันกำลังจะทำต่อไปอย่างแน่นอนค่ะ” เธอกล่าว “ฉันต้องการใช้โอกาสนี้เป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงและเติมเต็มช่องว่างในการเป็นนักแสดงที่มีทักษะที่ดีค่ะ”
