ประวัติและผลงานของอีโบยอง (Lee Bo Young)

You are currently viewing ประวัติและผลงานของอีโบยอง (Lee Bo Young)

1.เธอเป็นชาวราศีมังกร

อีโบยอง (Lee Bo Young) เกิดวันที่ 12 มกราคม 1979 ที่โซล, เกาหลีใต้

2.เธอเป็นราชินีแห่งความงาม

เธอชนะการประกวด Miss Korea Daejeon Chungnam ในปี 2000 หลังจากนั้นก็ไล่ตามความฝันในการเป็นนักข่าวแต่ก็ไม่สำเร็จ โบยองจึงเข้าสู่วงการนางแบบซึ่งเป็นใบเบิกทางในการเข้าวงการบันเทิง

3.เส้นทางอาชีพทางหน้าจอแก้วของเธอเริ่มต้นหลังจาก My Daughter Seo-yung”

โบยองเดบิวท์ในด้านการแสดงเมื่อปี 2003

บทที่โดดเด่นของเธอคือ ภาพยนตร์เรื่อง Once Upon a Time (2008)

และ I Am Happy (2009) ที่แสดงกับฮยอนบิน

แต่เส้นทางจอแก้วของเธอก้าวกระโดดในปี 2012 เมื่อเธอได้เป็นนักแสดงนำซีรีส์แนวครอบครัวโรแมนติกเรื่อง My Daughter Seo-young

เธอรับบทเป็นตัวเด่นและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายงานจนคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 49 ซีรีส์ของช่อง KBS2 เรื่องนี้ถือเป็นซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในปี 2013

4.ผลงานสร้างชื่อของเธอคือ I Can Hear Your Voice”, “Mother” และ “When My Love Blooms”

ซีรีส์แนวกฎหมาย-แฟนตาซีอย่าง I Can Hear Your Voice ที่โบยองแสดงคู่ กับ อีจงซอก

เธอรับบทเป็นจางฮเยซอง ทนายสาวที่ทำงานเพื่อสาธารณะและได้เจอกับเด็กมัธยมที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติ

จากบทนี้ทำให้โบยองได้รางวัลแดซังไปถึง 2 รางวัลจากงาน Korea Drama Awards ครั้งที่ 6

และ SBS Drama Awards ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของคนบันเทิง

นอกจากนี้แฟน ๆ ซีรีส์เกาหลียังคุ้นหน้าคุ้นตาโบยองจากซีรีส์เรื่อง Mother ในปี 2018

และซีรีส์แนวโรแมนติกเรื่อง When My Love Blooms ในปี 2020

5.เธอเป็นนักแสดงรับเชิญเรื่อง “Start-Up”

หลายคนอาจไม่รู้ว่าโบยองเคยไปรับเชิญในซีรีส์เรื่องดังปี 2020 อย่าง Start-Up รับบทเป็นสาวที่อยู่ในผับปลอบใจซอ ดัลมี (รับบทโดยแพซูจี) ที่สับสน และอดทนฟังฮันจีพยอง (รับบทโดยคิมซอนโฮ) ที่พูดความรู้สึกของเขาออกมาในตอนจบของตอน 10

6.เธอเป็นนักเขียนที่มีผลงานตีพิมพ์

โบยองจบการศึกษาจากสาขาวรรณกรรมเกาหลี เธอชอบอ่านหนังสื่อ และได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาตอนมหาลัยออกหนังสือในปี 2015 เรื่อง Time of Love เธอใช้เวลาถึง 3 ปีในการเขียน โดยหนังสือเล่มนี้เป็นบทความสะท้อนให้เห็นถึงเน้นความรัก, การปลอบโยน และการเติบโต

7.เธอมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขกับนักแสดงชาย

Lee Bo Young , Ji Sung

สามีของโบยองคือเพื่อนนักแสดงจากซีรีส์เรื่อง Save the Last Dance for Me ในปี 2004 นั่นคือจีซอง

ทั้งคู่คบหากันอยู่ 6 ปีก่อนจะแต่งงานกันในปี 2013

ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน ในฐานะนักแสดงทั้งคู่ต่างสนับสนุนกันและกันด้วยการส่งรถกาแฟไปให้ จีซองส่งรถกาแฟไปให้โบยองตอนที่เธอถ่ายซีรีส์เรื่อง Mine ของช่อง tvN และมีข้อความที่ป้ายว่า

“ผมเชียร์คุณอีโบยองนะครับ นักแสดงหญิงที่น่ารักที่สุดในโลก ให้กำลังใจทีมงาน ‘Mine’ ขอให้ถ่ายทำจนจบด้วยสุขภาพที่แข็งแรงกันทุกคนและได้รับกำลังใจเพิ่มนะครับ”

8.เธอไม่ให้ลูก ๆ ดูภาพยนตร์ของดีสนีย์

โบยองเติบโตขึ้นจากการดูการ์ตูน Disney แต่พอโตมาความสนใจเหล่านั้นก็ลดลง และเธอก็ตระหนักได้ถึงความคิดที่ “ไม่เห็นด้วย” กับการ์ตูนเหล่านั้น โบยองเผยว่า “เจ้าหญิง Disney ทุกคนต่างต้องการพบเจอเจ้าชาย อย่างในมู่หลาน เนื้อเพลงร้องว่า ‘คุณจะต้องแต่งงาน คุณจะต้องได้รับความสนใจจากผู้ชาย’ หรือสโนว์ไวท์ที่ร้องเพลงตอนที่มีสัตว์มาช่วยทำความสะอาด พอสโนว์ไวท์เป็นเจ้าหญิงนิทราเจ้าชายก็มาจูบ อะไรแบบนี้ค่ะ” โบยองให้สัมภาษณ์กับ Cosmopolitan Korea ด้วยเหตุผลนี้เธอจึงพยายามไม่ให้ลูกสาวดูภาพยนตร์ของ Disney

9.เธอสนับสนุนการเคลื่อนไหว Me Too”

โบยองสนับสนุนการเสริมอำนาจให้กับผู้หญิง แม้คนดังส่วนใหญ่เลือกจะปิดปากเงียบในประเด็นที่อ่อนไหวหรือประเด็นทางการเมือง แต่โบยองกลับเป็นกระบอกเสียง ในปี 2018 ที่มีการเคลื่อนไหว “Me Too” ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เธอแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนการณรงค์นี้และพูดถึงเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ “ฉันคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องเผยเรื่องราวบางประเด็น เรื่องนี้เป็นแผลเปื่อยเน่าที่สุดท้ายก็ระเบิดออกมา ฉันคิดว่าตอนนี้เราควรจัดระเบียบในเรื่องแบบนี้ค่ะ”

10.เธอรับเล่นเรื่อง “Mother” เพราะจะได้ call out ถึงการทำร้ายร่างกายเด็ก

พูดถึงการเป็นกระบอกเสียงขอโบยอง อีกเรื่องหนึ่งคือการป้องกันการทารุณกรรมในเด็กซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวเพราะเธอมีลูก และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรับเล่นเรื่อง Mother โบยองรับบทเป็นคังซูจิน ครูที่ลักพาตัวนักเรียนไปหลังจากรู้ว่าเด็กถูกคนที่บ้านทำร้าย โบยองถึงกับร้องไห้ในงานแถลงข่าวซีรีส์ตอนที่เธออธิบายว่าทำไมจึงยอมเล่นซีรีส์เรื่องนี้

“หลังจากฉันคลอดลูกได้ปีนึง บทความเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายเด็กยังดึงดูความสนใจฉันอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ช่วงเวลาที่ฉันได้รับข้อเสนอให้เล่นเรื่องนี้ตอนนั้นมีคดีทำร้ายร่างกายเด็กและทอดทิ้งเด็กอยู่ 2-3 คดีพอดี ทำให้ฉันมั่นใจแน่วแน่ว่าจะตัดสินใจเล่นซีรีส์เรื่องนี้ ฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้เราต้องคุยกันมากกว่านี้ค่ะ เราต้องให้ความสนใจเด็ก ๆ ที่อยู่รอบตัวมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกทำร้าย ฉันเลือกเล่นซีรีส์เรื่องนี้เพราะฉันรู้สึกว่าฉันจะได้รับผิดชอบต่อสังคม (กับเด็กที่ถูกทำร้าย) มากกว่าที่ฉันจะคิดว่าซีรีส์จะสนุกหรือจะได้เรตติ้งสูง ๆ ค่ะ”

จีซอง และ อีโบยอง แชร์วิดีโอน่ารักๆ ของลูกสาวที่สนามบินก่อนจะเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน

Leave a Reply